วันนี้ (5 เม.ย.2568) กองทัพส่งกำลังพลผลัดที่ 2 จำนวน 55 นาย เดินทางไปร่วมยุทธการ “มัณฑะเลย์ 82” ซึ่งเป็นชุดช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยจะปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 8 วันและมีภารกิจหลัก 2 อย่างคือ ภารกิจทางการแพทย์ ที่ต้องให้ความช่วยเหลืออย่างน้อย 100 คนต่อวัน และภารกิจทางการช่าง สร้างที่พักพิงชั่วคราว 30 หลังต่อวัน
การเดินทางครั้งนี้มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ร่วมคณะด้วย เพื่อไปเจรจากับทางการเมียนมาในการตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียน เพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ โดยจะใช้พื้นที่ของกองทัพอากาศเป็นจุดกระจายสิ่งของให้ความช่วยเหลือไปเมียนมา
อ่านข่าว : ส่องเบื้องหลังเยือนไทย "ผู้นำทหารเมียนมา" ประชุม BIMSTEC
ส่วนสถานการณ์ในเมียนมาหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมียนมาเดินหน้ารื้อซากอาคารและค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยสื่อทางการเมียนมาเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3,354 คน มีผู้บาดเจ็บ 4,508 คนและสูญหายอีก 220 คน
ขณะที่ประชาชนในหลายเมืองต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในซะไกง์ ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว เนื่องจากสะพานและถนนถูกตัดขาด ส่งผลกระทบต่อการลำเลียงความช่วยเหลือทั้งทีมกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่ โดยมีรายงานว่าอาคารในเมืองเกือบทั้งหมดได้รับความเสียหายและครึ่งหนึ่งถูกทำลาย
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุโจมตีของกองทัพเมียนมาที่พุ่งเป้าไปที่ฝ่ายต่อต้าน อย่างน้อย 53 ครั้ง นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว โดยในจำนวนนี้พบการโจมตีทางอากาศอย่างน้อย 16 ครั้ง นับตั้งแต่รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศหยุดยิง เพื่อเปิดทางจัดส่งความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว
นอกจากนี้ หน่วยงานของยูเอ็นยังเรียกร้องให้กองทัพยุติปฏิบัติการทางทหารและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งเปิดทางให้องค์กรด้านมนุษยธรรมสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างราบรื่น หลังจากมีรายงานว่ากองทัพจำกัดการจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นเข้าไปในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายต่อต้าน
ด้านมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำเป็นจะต้องเป็นไปอย่างสมดุลและเหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วนด้านอื่นๆ ของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกควรเข้าร่วมสนับสนุนด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้สหรัฐฯ รับภาระส่วนใหญ่ในการส่งความช่วยเหลือไปทั่วโลก
ท่าทีดังกล่าวของรูบิโอ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกวิจารณ์จากความล่าช้าในการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในเมียนมา ตามหลังจีน รัสเซียและอินเดีย ขณะที่ล่าสุดสหรัฐฯ ประกาศเตรียมจัดส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมถึงที่พักอาศัยชั่วคราว อาหาร ยาและน้ำ
อ่านข่าว
"จีน" ตอบโต้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เพิ่ม 34%
เมียนมาประกาศหยุดยิงชั่วคราว เปิดทางช่วยฟื้นฟูแผ่นดินไหว
ศาลตัดสินเอกฉันท์ 8-0 ถอดถอน "ยุน ซอก-ยอล" จาก ปธน.เกาหลีใต้