เป็นกำไรที่ได้มาเพิ่ม 9 เสียง จากพรรคฝ่ายค้าน จากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคไทยก้าวหน้า พรรคละ 1 เสียง ที่เหลือมาจากพรรคไทยสร้างไทย เกือบยกพรรค ยกเว้นนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด คนเดียว ที่โหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ
แม้ สส.อาวุโส พรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน คือ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะงดออกเสียง และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเข้าร่วมประชุมและโหวตไม่ไว้วาวงใจ แต่ก็ไม่มีผลต่อผลโหวตที่ออกมา
ส่งผลให้ น.ส.แพทองธาร นายกฯ ยิ้มแป้น และถ่ายภาพร่วมกับ สส.พรรครัฐบาล และที่ให้การสนับสนุนในห้องประชุมสภาฯ หลังเสร็จสิ้นการโหวตเสียง รวมทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่จะโดนสปอตไลต์ส่องเป็นพิเศษ
เพราะก่อนหน้านี้ เคยเปิดประเด็น สส.งูเห่า 10 คน จากฝ่ายค้าน จะยกมือสนับสนุนนายกฯมาก่อนหน้านี้แล้ว ถือเป็นบุคคลสำคัญในการแยกสลายตัดทอนพลังของฝ่ายค้าน และเคยมีประสบการณ์เรื่องเจรจาประสานกับ สส.พรรคจิ๋ว ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแล้ว
แม้จะไม่ใช่คนในพรรคเพื่อไทย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นคนวงในที่ใกล้ชิด และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไว้วางใจ มาตั้งแต่สมัยตั้งพรรคไทยรักไทย ใหม่ๆ ได้เคยช่วยเหลือสนับสนุนกันมาแต่ก่อน
กระทั่งเลือกตั้ง นายก อบจ. ไม่ว่า จะในสนาม จ.ขอนแก่น หรือ จ.ปราจีนบุรี ที่ ร.อ.ธรรมนัส มีส่วนช่วยปักธงนายก อบจ. คนใหม่ได้สำเร็จ หรือแม้แต่มีชื่อร่วมทริปนายทักษิณ ไปพบนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซียคนใหม่ ที่เกาะหลีเป๊ะ ก่อนรับตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน
ความจริงประเด็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง สำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คือการตัดสินใจเลือกล็อคเป้า น.ส.แพทองธาร เพียงคนเดียว แทนที่จะเป็นรายบุคคล และพ่วงรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ที่สำคัญด้วย อาทิ ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การเกษตรและด้านสังคม ซึ่งจะช่วยให้การอภิปรายเจาะลึกเป็นรายบุคคล และเปิดประเด็นได้กว้างกว่า ทั้งจะช่วยเพิ่มเวลาในศึกอภิปรายได้มากกว่า
ตามธีม “ดีลแลกประเทศ” ที่ตั้งไว้
แต่การล็อคเป้านายกฯ แค่คนเดียว จึงถูกรัฐบาลเปิดเวลาให้เพียง 2 วัน ทั้งยังต้องอภิปรายข้ามวันข้ามคืน ขณะที่เป็นเวลานอนหลับของคนทั่วไป เวลาการอภิปรายแต่ละเรื่องจึงถูกจำกัดด้วยเวลา การซักฟอกประเด็นไอโอของกองทัพ ที่เคยสร้างความฮือฮาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อน ครั้งนี้จึงเหลือผู้อภิปรายแค่คนเดียว ไม่ต่างจากเรื่องปฏิรูปกองทัพ
ทั้งยังทำให้ การอภิปรายเรื่อง “ตั๋ว” สารพัดขนาด ที่มีทหาร ตำรวจ และคอการเมืองจำนวนไม่น้อยเฝ้ารอคอยอยู่ กลับไม่มีปรากฏในศึกอภิปรายฯ ครั้งนี้
ถือเป็นบทเรียนสำคัญของฝ่ายค้านที่ยังไม่ “เก๋าเกม” การเมืองเทียบเท่าได้ กระทั่งผลสำรวจของโพลอย่าง ม.นอร์ธกรุงเทพ ระบุชัดว่า ความน่าเชื่อถือด้านข้อมูลอภิปรายของฝ่ายค้าน ต่ำกว่าความน่าเชื่อด้านข้อมูลของฝ่ายรัฐบาล
ทำให้ต้องรอแก้ตัวในโอกาสหน้าฟ้าใหม่ อย่างน้อยอีก 1 ปี
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : การเมืองมัสก์-นวัตกรรม BYD ตัวฉุด Tesla ยอดขายตก-หุ้นร่วง ?
เจาะตลาด“ข้าวอินทรีย์” สนค.ชี้ปี 77 มูลค่าพุ่ง 4.05 แสนล้าน โตรับเทรนด์โลก
ปชป.งดออกเสียงหนุนนายกฯ 4 คน "ชวน" บอกต้องถามพ่อสอบผ่านหรือไม่