ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ราชทัณฑ์ ปัด"ขบวนการหากินกับคุก” แต่ยอมตั้งกก.หาความจริง

การเมือง
7 มี.ค. 68
09:37
137
Logo Thai PBS
ราชทัณฑ์ ปัด"ขบวนการหากินกับคุก” แต่ยอมตั้งกก.หาความจริง
กรมราชทัณฑ์ แจงยิบปมถูกโยง จนท.รู้เห็น "สมเด็จ" ผู้ต้องขังที่มีอิทธิพลตั้งขบวนการหากินในคุก เปิดบัญชีม้าจ่ายเงินในเรือนจำ จัดวงเล่นการพนัน ใช้มือถือ พร้อมตั้งกรรมการสอบคลายข้อกังขา

กรณีนายสิทธิกร ธงยศ สมาชิกวุฒิสภา ได้มีการอภิปราย พร้อมภาพที่มีข้อความว่า “ขบวนการหากินกับคุก” สร้างความไม่เท่าเทียมกันในเรือนจำ และยังกล่าวว่า มีตัวละครที่ใช้ชื่อว่า "สมเด็จ" ในกรมราชทัณฑ์และเรือนจำ ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องขังคนอื่น

วันนี้ (7 มี.ค.2568) กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารขอเรียนว่า จากการอภิปรายดังกล่าว ไม่เป็นความจริง สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนและสร้างความเสียหายให้กับกรมราชทัณฑ์ จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้

ปัดจนท.รู้เห็นขบวนการหากินในคุก

ประเด็นกล่าวอ้างว่า มีขบวนการ “หากินกับคุก” ในยุคของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เมื่อมีผู้ต้องขังเข้าใหม่ในเรือนจำ จะมีผู้ต้องขังด้วยกันพาไปพบบุคคลที่นายสิทธิกร ขนานนามว่า “สมเด็จ” ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่มีอิทธิพล มีหน้าที่เป็นมือไม้ให้กับเจ้าพนักงานเรือนจำที่ทุจริต และสามารถทำให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้รับอภิสิทธิ์ ฝากและใช้เงินในเรือนจำได้เกินกว่าเดือนละ 9,000 บาท ด้วยการโอนเงินตอบแทนผ่านบัญชีม้า เพื่อเป็นค่าดำเนินการให้กับเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น

กรมราชทัณฑ์ขอชี้แจงว่า ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการรับ จ่ายเงินฝากของผู้ต้องขังในเรือนจำ พ.ศ.2563 กำหนดให้ผู้ต้องขังมีเงินฝากในบัญชีได้ไม่เกินคนละ 15,000 บาท โดยเงินฝากดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติ ฝากไว้ให้กับผู้ต้องขังแต่ละคน เพื่อไว้ซื้อสินค้าจากร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังในเรือนจำ

แต่เงินรางวัลที่ผู้ต้องขังได้รับจากการทำงานในเรือนจำ หรือการฝึกวิชาชีพ เรือนจำจะรับฝากเงินไว้ให้ในบัญชีของผู้ต้องขัง ซึ่งอาจทำให้ยอดเงินฝากเกินกว่า 15,000 บาท

โดยเงินฝากดังกล่าว เมื่อผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัว จะมาถอนเงินในบัญชีจากเรือนจำไป เพื่อนำไปประกอบอาชีพ เลี้ยงดูครอบครัวภายหลังพ้นโทษ

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์กำหนดให้ผู้ต้องขัง สามารถถอนเงินฝากเพื่อใช้จ่ายประจำวัน ในเรือนจำได้วันละไม่เกิน 500 บาท หากจะถอนเงินฝากเกินกว่าวันละ 500 บาท ต้องขออนุญาตจากผู้บัญชาการเรือนจำ

ปมใช้กล่องนมเล่นการพนัน 

ประเด็นกล่าวอ้างว่า “สมเด็จ” จัดให้มีการเล่นการพนัน โดยใช้กล่องนมหรือกาแฟชนิดซองแทนอุปกรณ์เล่นการพนันหรือแทนเงินสด อีกทั้งยังสามารถใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำ หรือกรณีหากผู้ต้องขังไม่ต้องการย้ายเรือนจำ หรือผู้ต้องขัง ซึ่งไม่ได้ป่วยจริง สามารถออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้ โดยสมเด็จเป็นผู้ดำเนินการนั้น

กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง และไม่มีสมเด็จในเรือนจำ เนื่องจาก กรมราชทัณฑ์มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด มีการสลายกลุ่มบ้านที่สร้างอิทธิพล มีการตรวจค้นจู่โจมสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง

กรณีการย้ายผู้ต้องขัง มีคณะทำงานจำแนกลักษณะผู้ต้องขังประจำเรือนจำเป็นผู้พิจารณาโดยคำนึงถึงพฤติการณ์ผู้ต้องขัง เหตุผลความจำเป็นในการย้ายอย่างละเอียดรอบคอบ

สำหรับกรณีการส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ผู้ต้องขังต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ จึงจะสามารถส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกได้

ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง คลายปมสมเด็จ

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า นอกจากกฎระเบียบ และมาตรการต่างๆ ที่ได้ชี้แจงข้างต้นแล้ว กรมราชทัณฑ์ ยังให้บุคลากรทุกระดับ ต้องไม่กระทำการทุจริตผิดคุณธรรมจริยธรรม และต้องปฏิบัติตนตามข้อกำหนดจริยธรรม ของกรมราชทัณฑ์ พ.ศ.2565 อย่างเคร่งครัด

ที่ผ่านมาหากพบการกระทำทุจริต โดยเฉพาะการนำสิ่งของต้องห้าม เข้ามาในเรือนจำหรือการให้ผู้ต้องขังมีอิทธิพล จะดำเนินการลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด กรมราชทัณฑ์ จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูล ก็จะดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกระดับทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นกรณีความผิดที่เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ต.อ.ทวี  จะมาดำรงตำแหน่ง

อ่านข่าว :

ส่งฟ้องศาลชายป่วยจิตเวช "ตบหน้า" จนท.โรงพยาบาล

จ่อขอหมายจับ "ทหารหญิงยศพันเอก" คดีทุจริตยา รพ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง