เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ยานอวกาศไร้คนขับที่พัฒนาโดยบริษัท Firefly Aerospace จากสหรัฐฯ ได้ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ ทำให้ Firefly กลายเป็นบริษัทเอกชนแห่งที่ 2 ที่สามารถทำการลงจอดบนดวงจันทร์ได้ หลังจากที่ Intuitive Machines บริษัทเอกชนจากเท็กซัสทำสำเร็จในปี 2566 การลงจอดของ "ยาน Blue Ghost" ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทั้งในด้านเทคโนโลยีและการสำรวจทางวิทยาศาสตร์
ยาน Blue Ghost มีความสูง 2 เมตร ลงจอดบนดวงจันทร์ในเวลา 02:34 น. ตามเวลาของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 มี.ค.) การลงจอดครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญ สำหรับโครงการของ NASA และบริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่กำลังมุ่งหวังให้การสำรวจนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งมนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ในโครงการ Artemis ในอนาคต
Jason Kim CEO ของ Firefly กล่าวว่า ยาน Blue Ghost ลงจอดบริเวณ Mons Latreille ซึ่งเป็นภูเขาไฟเก่าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของดวงจันทร์ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร พื้นที่นี้ถูกเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาจากสนามแม่เหล็กที่อาจมีผลกระทบต่อการเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งในยาน
หลังจากที่ยานลงจอดประมาณ 40 นาที ยานได้ส่งภาพแรกกลับมายังโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพื้นผิวดวงจันทร์ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหลุมอุกกาบาต รวมถึงบางส่วนของยานจากกล้องที่ติดตั้งอยู่ ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการทำงานของระบบนำทางของยาน Blue Ghost ที่สามารถหาพื้นที่ที่ราบเรียบและปลอดภัยสำหรับการลงจอด
ยาน Blue Ghost เดินทางไปพร้อมกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และการทดลองเทคโนโลยี 10 ชิ้น ซึ่งรวมถึงการทดสอบการใช้งาน GPS บนดวงจันทร์ การใช้เครื่องดูดดินเพื่อเก็บตัวอย่างจากพื้นผิว และการใช้กล้องโทรทรรศน์เพื่อศึกษาผลกระทบจากสภาพอากาศในอวกาศต่อสนามแม่เหล็กของโลก รวมถึงการถ่ายภาพความละเอียดสูง การทดลองเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาลักษณะต่าง ๆ ของดวงจันทร์และเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจของมนุษย์ในอนาคต
ในช่วง 14 วันของการทำงานในภารกิจนี้ Blue Ghost จะดำเนินการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น การเจาะพื้นดิน การบันทึกภาพในความละเอียดสูง และการศึกษาปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ เช่น การเกิดปรากฏการณ์ "Lunar horizon glow" ซึ่งเป็นแสงที่เกิดจากอนุภาคที่ลอยอยู่ในอากาศที่กระทบกับแสงแดดในขอบฟ้าของดวงจันทร์
เมื่อดวงจันทร์เข้าสู่ช่วงกลางคืน อุณหภูมิในพื้นที่ที่ยานลงจอดอาจลดลงถึง -173 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเย็นจัดมากจนยากต่อการทำงานของยาน NASA ได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มให้ Firefly พัฒนาระบบที่ช่วยให้ยานสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำมากนี้ได้ โดยการเพิ่มวงเงินในสัญญาจาก 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ Firefly พัฒนาระบบต่างๆ เพื่อให้ยานสามารถทำงานในช่วงที่ดวงจันทร์มีอุณหภูมิหนาวจัดได้

ในช่วงที่ดวงจันทร์เข้าสู่กลางคืน ยาน Blue Ghost จะยังคงทำการเก็บข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นอย่างสุดขั้ว และจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเช่นเดียวกับการบันทึกภาพปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ดวงจันทร์เข้าสู่ช่วงคืน
การลงจอดของยาน Blue Ghost ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีการสำรวจดวงจันทร์จากบริษัทเอกชน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างรากฐานในการสำรวจดวงจันทร์ในอนาคต โดยเฉพาะการสนับสนุนภารกิจมนุษย์ที่จะกลับไปยังดวงจันทร์ภายใต้โครงการ Artemis ของ NASA
Dr. Joel Kearns รองผู้บริหารของ NASA กล่าวว่า การลงจอดครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ว่าโมเดลที่ NASA พัฒนามาตั้งแต่ปี 2561 สามารถประสบความสำเร็จได้ และเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับบริษัทเอกชนอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการลงจอดบนดวงจันทร์
ในภารกิจถัดไป Firefly วางแผนจะส่งยาน Blue Ghost ลงจอดที่ฝั่งตรงข้ามของดวงจันทร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้าใจในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจมากนัก และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจมนุษย์ในอนาคต โดยจะมีการใช้ยาน Elytra ซึ่งเป็นยานที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลจาก Blue Ghost กลับมายังโลก
อ่านข่าวอื่น :