สื่อหลายสำนักรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนที่ไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่า สหรัฐฯ และยูเครน ตกลงเงื่อนไขข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญและทรัพยากรอื่น ๆ แล้ว และอาจลงนามได้อย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.นี้ ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ของโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเครน เปิดเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สหรัฐฯ ร่วมพัฒนาทรัพยากรแร่ธาตุของยูเครน โดยรายได้จะเข้ากองทุนที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งจะเป็นกองทุนร่วมกันระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ ขณะนี้ยูเครนกำลังพิจารณาจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้เพื่อลงนามในข้อตกลงดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่าในร่างข้อตกลงมีการกล่าวถึงเรื่องการรับประกันความมั่นคงด้วย แต่ไม่ได้ระบุถึงบทบาทของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า สหรัฐฯ ตัดเงื่อนไขบางประการที่อาจเป็นผลเสียต่อยูเครนออกไป รวมถึงการขอสิทธิ์ในการรับรายได้จากทรัพยากรมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 16 ล้านล้านบาท ของยูเครนด้วย
สื่อยูเครน รายงานเช่นกันว่า สหรัฐฯ และยูเครน ได้ตกลงรายละเอียดของข้อตกลงแร่ธาตุแล้ว ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เรียกร้องให้ยูเครนเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่ธาตุหายาก เพื่อชดเชยความช่วยเหลือในช่วงสงครามที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครนในสมัยของโจ ไบเดน ขณะที่ยูเครนเรียกร้องให้การรับประกันความมั่นคงจากสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใด ๆ
ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นหลังทรัมป์ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เซเลนสกีเตรียมจะเดินทางเยือนทำเนียบขาวภายในสัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า เพื่อลงนามในข้อตกลงที่จะอนุญาตให้สหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งแร่ธาตุหายากในยูเครน เพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางการทหารจากสหรัฐฯ ต่อไป
ขณะที่เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่าร่างข้อตกลงฉบับล่าสุดนี้ไม่มีการระบุให้ยูเครนต้องมอบรายได้จากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมัน และแก๊ส มูลค่ากว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อชดใช้มูลค่าความช่วยเหลือที่ผ่านมาให้กับสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ยูเครนแสดงความไม่พอใจในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมองว่าอาจสร้างภาระหนี้ให้ชาวยูเครนอีกหลายชั่วอายุคน
ยูเครนถือเป็นประเทศที่มีแหล่งแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด ในจำนวนนี้รวมถึงไทเทเนียมที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดในยุโรป และมียูเรเนียมที่ใช้พัฒนานิวเคลียร์ด้วย