วันนี้ (21 ก.พ.2568) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมคณะสมาชิกวุฒิสภา แถลงข่าวด่วนกรณีที่มีกลุ่ม สว.สำรอง ยื่นเรื่องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับคดีฮั้วเลือก สว.ปี 67 เป็นคดีพิเศษ ระหว่างสัมมนาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
- กกต.ขยับ! รวบข้อเท็จจริงเอาผิดกระแส "ฮั้วโหวต-บล็อกโหวต"
- จับตา "สว.บ้านใหญ่" ผงาดสภา 200 คนศึกชิงพื้นที่การเมือง
นายมงคล กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนรู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่น่าถูกต้อง เพราะอำนาจในการสืบสวนตรวจสอบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นองค์กรอิสระ ซึ่งรับเรื่องไว้แล้ว และดำเนินการตรวจสอบอยู่ และเมื่อ สว.ได้รับการรับรองทำหน้าที่มา 6 เดือน ก็ให้ความร่วมมือกับ กกต.มาตลอด
สว.เข้ามาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ตามเงื่อนไข ตามระเบียบที่กกต.กำหนดไว้ และทำหน้าที่ของสว.อย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้ฝักใฝ่ หรือเกี่ยวข้องกับผู้หนึ่งผู้ใด แต่อยู่ดี ๆ ท่ามกลางความขัดแย้งต่าง ๆ เกิดมีข่าวนี้ขึ้นมาตรวจสอบ ตนจึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.ประธาน กรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ วุฒิสภา กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อกฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว.ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เป็นอำนาจหน้าที่ กกต.พิจารณา แต่ข่าวที่ออกมากระทบต่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อวุฒิสภา ที่ได้มาจาก 20 กลุ่มอาชีพ ในการเข้ามาพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ

รวมทั้งยังทราบว่า ขณะนี้มีการดำเนินการจากผู้ที่ร้องเรียนต่อดีเอสไอ ทราบว่า อยู่ในกระบวนการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องแต่อยากจะย้ำว่า ตามข้อกฎหมาย การดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตและหน้าที่ ตราบใดที่หน่วยงานหลักตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญไม่ได้มอบอำนาจ จะพูดในลักษณะที่ทำให้ สว.โดยรวมเกิดความไม่เชื่อมั่น ใน กกต.
อยากจะขอไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับเรื่องดำเนินการ ไม่ว่าจะรับจากภาคเอกชนหรือหน่วยงานใด ๆ ขอให้อยู่ในอำนาจหน้าที่ ซึ่งตนไม่ได้ให้ร้ายใคร แต่การให้ข่าวของ รมว.ยุติธรรม อาจทำให้ สว.เสื่อมเสียหรือทำให้สังคมเข้าใจผิด จึงขอทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนว่า สว.ได้มาโดยสุจริต โปร่งใส ทุกคนมีการแข่งขันแนะนำตัวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ความคิดที่กล่าวหาว่าเป็นอาชญากรข้ามชาติ อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นข่าวที่เกินเลยความจริงไป
ขณะที่ พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว.ในฐานะโฆษก กมธ.กฎหมายฯ กล่าวว่า การได้มาซึ่ง สว.ในครั้งนี้ ได้มาโดยรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มาโดยสมาคมหรืออั้งยี่ การกล่าวหาเกินเลยจากข้อเท็จจริง การกล่าวหาว่าองค์กรของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ ใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน เป็นกระบวนการที่มิชอบด้วยกฎหมาย มีความมุ่งหมายที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นการกล่าวหาใส่ความ

ผู้ใดก็ตามที่กล่าวหาใส่ความว่า สว.ที่ได้มาครั้งนี้ โดยไม่มีความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ สมาคมอั้งยี่หรืออะไรก็แล้วแต่เป็นการใส่ความให้เกิดความเสียหายและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการนิติบัญญัติ ดังนั้น ผู้ดำเนินการตรงนี้ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไม่ว่า จะเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐก็ดีหรือผู้บริหารบ้านเมืองก็ดีต้องรับผิดชอบ
พ.ต.อ.กอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เข้าสู่กระบวนการคัดเลือก สว.แต่ไม่ได้รับเลือก กลับมากล่าวหาว่า กระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องรับผิดชอบ อยากจะฝากว่า กฎหมายบ้านเมือง เป็นหลักในการปกครองบ้านเมือง
ประการสำคัญขณะนี้ มีกระบวนการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย วิธีการฉ้อฉลและบิดเบือนอำนาจทุจริตในวงกว้างและพยายามแก้เพื่อนำไปสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญที่ใช้ในปัจจุบันพยายามแก้ปัญหาและขจัดคนไม่ดีทุจริตฉ้อฉลมาบริหารบ้านเมือง แต่ขบวนการนี้ย้อนกลับมาอีกครั้งเพื่อให้เกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญให้ได้และทำให้ประชาชนเกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน เพื่อให้การดำรงอยู่ของการเคารพกฎหมายดำรงอยู่และผาสุกสงบเรียบร้อย ใครก็ตามที่บังอาจบิดเบือนฉ้อฉลไม่สามารถดำเนินการได้ต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกกล่าวหา นายมงคลกล่าวว่า ไม่สบายใจ พวกเราได้รับการตรวจสอบและได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นประธานวุฒิสภา โดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว ต่อมาได้ให้ความร่วมมือกับ กกต.ทุกเรื่อง แต่เหตุใดหน่วยงานที่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ อยู่ดี ๆ ก็มาให้ข่าว ก่อให้เกิดความรู้สึกว่า เป็นหน้าที่ของเราในการปกป้องสิทธิ ศักดิ์ศรี ของ สว.
ดังนั้น หากเข้าข้อกฎหมายหรือมีความผิดปกติเรื่องใด หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด บุคคลใดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสว.ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างถึงที่สุด
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกลเกมการเมืองหรือไม่ พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า ถ้ามองให้รอบคอบ การใช้กฎหมายมาอ้างอิงในการดำเนินคดีกับคณะวุฒิสมาชิกในครั้งนี้ เป็นการใช้ข้อกฎหมายไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และการที่กลุ่มบุคคลกระทำการเช่นนี้ โดยมี รมว.ยุติธรรม ดำเนินการก็ดูว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ โดยการอ้างกฎหมายอาญามาใช้โดยมิชอบ เป็นการใช้กฎหมายเพื่อสร้างปัญหาให้กับการบริหารการปกครองบ้านเมือง มีกลุ่มคนที่ไม่สำนึก ไม่เคารพกติกากฎเกณฑ์ของบ้านเมืองเพื่อสร้างวิกฤตรัฐธรรมนูญ
การใช้กฎหมายอาญา ม.116 มาอ้างว่า กลุ่มที่สมัคร สว.ที่ได้รับการรับรองจาก กกต.แล้ว ไปยุยงปลุกปั่นก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยเพื่อให้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง อันนี้ถ้ามองด้วยหลักกฎหมายที่ถูกต้องผู้ที่ทำการนี้ เป็นพวกกล่าวหานำเรื่องไปให้ดีเอสไอต่างหาก ที่พยายามบั่นทอนความมั่นคง 3 เสาหลักของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีอำนาจบริหารนิติบัญญัติและตุลาการ ซึ่งรัฐธรรมนูญให้อำนาจ ตรวจสอบถ่วงดุลกับ 3 อำนาจนี้ ดังนั้นการที่ ดีเอสไอ หรือรัฐมนตรีกล่าวหาเป็นการบิดเบือนและฉ้อฉลอำนาจตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นการเมืองหรือไม่ท่านก็พิจารณาได้
พ.ต.อ.กอบ ยังกล่าวต่อด้วยว่า ขณะนี้มีปัญหาเกิดขึ้นรอบด้าน มีปัญหาที่คณะรัฐมนตรีต้องไปแก้ไขมากมาย ทำไมไม่ไปทำ มาสั่นคลอนกระบวนการนิติบัญญัติ รัฐสภาเป็นองค์กรใช้นิติบัญญัติแทนประชาชน จะมายุแยง ยั่วยุ หรือ ปลุกปั่นประชาชน กล่าวหาฝ่ายนิติบัญญัติแสดงว่า บ้านเมืองไม่ได้ปกครองด้วยกฎหมาย

พร้อมยืนยันว่า คนที่ไม่มีหน้าที่และก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง พวกนี้ต้องถูกดำเนินคดี จะเป็นกระบวนการจากอะไรก็ตาม ต้องถูกตรวจสอบว่า มาอย่างไร มีองค์กรไหนอยู่เบื้องหลัง
สุดท้าย พล.อ.กรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า กระบวนการนี้ เป็นปมโยงกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 มันไม่ค่อยปกติ จากนี้ไปจะมี สว.จำนวน 1 ใช้กระบวนการยุติธรรม กล่าวโทษดำเนินคดี รวมไปถึงลงชื่อเพื่ออภิปรายผู้บริหารที่เกี่ยวข้องต่อไป
อ่านข่าว : 10 โมงวันนี้ สว.แถลง ดีเอสไอรับเรื่องคดีฮั้วเลือก สว.67
กกต.จับตา 4 รูปแบบทุจริต ฮั้วเลือก สว.ระดับประเทศ
"วิษณุ" ห่วงฮั้วเลือกสว.ระดับประเทศ เชื่อประกาศชื่อทัน 2 ก.ค.