ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผงะเด็กไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่ม 5.3 เท่าใน 7 ปี หวั่นกระทบเยาวชน

สังคม
20 ก.พ. 68
11:48
2,347
Logo Thai PBS
ผงะเด็กไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่ม 5.3 เท่าใน 7 ปี  หวั่นกระทบเยาวชน
อ่านให้ฟัง
06:30อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รายงานต่างประเทศ ชี้ฝุ่นพิษจากบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่า pm2.5 ในกทม. 10 เท่า กมธ.วิสามัญฯ เล็งนำผลศึกษา 3 แนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเข้าสภาฯ เผยผลสำรวจ 96%ครอบครัวไทยหวั่นส่งผลกระทบต่อเยาวชน

วันนี้ (20 ก.พ.2568) ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านการควบคุมยาสูบ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคปอดอับเสบรุนแรง หากมีพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ร่วม เช่น การบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม และดื่มแอลกอฮอล์

ส่งผลเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด-การใช้บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อพัฒนาการสมองของเด็กตั้งแต่ในครรภ์จนถึงอายุ 25 ปี การพัฒนาสมองส่วนหน้าของเด็กมีความสำคัญต่อการควบคุมอารมณ์และลดความรุนแรง

กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่เข้มงวดเพียงพอ ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้ามีความท้าทาย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของกลุ่มทุนและความต้องการรายได้จากภาษี การเพิ่มขึ้นของผู้สูบบุหรี่นำไปสู่ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่สูงขึ้น

ทั้งนี้รายงาน U.S.Centers For Disease Control And Prevention หรือ CDC ระบุว่า ปัญหาฝุ่นละอองเป็นพิษหรือ PM 2.5 ที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายมากกว่า PM 2.5 ทั่วๆไป ซึ่งมีระดับที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรก็ถือว่าอันตรายแล้ว

แต่ฝุ่นพิษที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าตั้ง 220 กว่าไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าระดับฝุ่นพิษในกรุงเทพฯ เกือบ 10 เท่า เคยมีการวัดค่า PM 2.5 ในห้องประชุมที่ใช้จัดอีเว้นท์ และมีคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าพบว่ามีค่า PM 2.5 ที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า ทิ้งอยู่ภายในสูงกว่าตั้ง 819 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ผศ.ดร.ลักขณา กล่าวอีกว่า คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เตรียมนำผลการศึกษา 3 แนวทางหลัก คือ 1.การคงแบนบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ 2.การอนุญาตเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน และ 3.การทำให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบถูกกฎหมาย เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้

อยากให้รัฐบาลคงมาตรการห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และเร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายทุกรูปแบบ

ด้าน ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร หัวหน้าสาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้ป่วยนอกเด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ร้อยละ 38 ของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอายุระหว่าง 15-24 ปี ร้อยละ 92 สูบบุหรี่ฟ้าครั้งแรกจากการชวนของเพื่อน และกลุ่มอายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 5.3 เท่าภายใน 7 ปี (พ.ศ.2558-2565)

ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมาจากการโฆษณา การแต่งสี กลิ่น รส อิทธิพลสังคมและกลุ่มเพื่อน ลดความเครียด และเสพติดนิโคติน

เด็กที่ติดบุหรี่ไฟฟ้าจะเลิกได้ยากกว่าวัยผู้ใหญ่ และอาจเลิกช้ากว่า 20 ปี เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุน้อยยิ่งติดเยอะ และไม่จริงเลยที่ว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วจะลดการสูบบุหรี่มวนได้ เพราะจากการสำรวจแล้วเราพบว่ายิ่งเพิ่มปัจจัยการสูบบุหรี่มวนเพิ่มมากขึ้น

ผศ.พญ.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า การทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายจะทำให้เกิดปัญหาการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นของกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะจากผลสำรวจความคิดเห็นของครอบครัวมีความกังวลอย่างมาก และไม่เห็นด้วยที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพราะขนาดไม่ถูกกฎหมาย กฎหมายยังไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง

หากรัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหาสิ่งเสพติด โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าควรพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชนในการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

ด้านนางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ประธานเครือข่ายครอบครัวปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ร่วมกับสมาคมเครือข่ายพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ สำรวจความเห็น “ครอบครัวไทยคิดอย่างไรต่อบุหรี่ไฟฟ้า” ระหว่างวันที่ 4-11 ม.ค.2568 ผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยแบบสอบถามจาก 3,428 คน ร้อยละ 80 อยู่ในกลุ่มวัยทำงานอายุ 31-60 ปี และร้อยละ 10 เป็นผู้สูงอายุและเด็ก

พบว่า ครอบครัวส่วนใหญ่ร้อยละ 79 มีความกังกลต่อการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวขน ร้อยละ 96 มีความกังวลว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะแพร่ระบาดมาถึงลูกหลานตน และร้อยละ 33 คิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะเข้าถึงบุตรหลานของตนอย่างแน่นอน และร้อยละ 40 มีโอกาสครึ่งต่อครึ่ง

ขณะที่ น.ส.ณัฐนพิน บุญจริง ผู้ปกครอง กล่าวว่า วัยรุ่นมีความคิดเป็นของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง แต่วุฒิภาวะและการตัดสินใจยังมีน้อย ไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา ตอนนี้ลูกมีสุขภาพไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ป่วยง่าย บางครั้งหยิบยืมเงินแม่เนื่องจากไม่พอใช้ ได้แต่พยายามสื่อสารให้รู้ถึงอันตรายที่มีต่อสุขภาพ

อ่านข่าว:

 ประกันสังคมเพิ่มช่องทางจ่ายเงินสบทบ ม.39-ม.40 ผ่านแอปฯเป๋าตัง

"พิพัฒน์" ยันไม่เคยยกเลิกเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม จำเป็นทำปฏิทิน

สปสช.แจงปมเคสรอคิวทำฟันเทียม 8 ปี ประสานรักษา รพ.ปากเกร็ด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง