ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน...เมื่อย่างก้าวเข้าสู่ฤดูแล้ง ทุกภูมิภาคเหนือจรดใต้ ไม่ว่าจะเป็น ป่าไม้เบญจพรรณ ผสมผลัดใบ ป่าเต็งรัง หรือแม้แต่ป่าพรุ มักจะหนีไม่พ้น “ไฟป่า” ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. ถือเป็นปัญหาหนักและปัญหาหลักที่ทุกรัฐบาลต้องเผชิญ ในทุก ๆ ปี มักจะมีเจ้าหน้าที่รัฐและชาวบ้านต้องสังเวยชีวิต ขณะปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าจำนวนไม่น้อย
เมื่อปี 2562 รัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.) มอบหมายให้คณะทำงานวิชาการเฉพาะกิจ จัดทําข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารจัดการไฟป่า และการเผาในที่โล่งเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5
รายงานฉบับนี้ ได้มีการวิเคราะห์ไฟป่าซ้ำซากในไทยว่า ร้อยละ 99.99 เกิดจากฝีมือของมนุษย์แทบทั้งหมด บางแห่ง เผาป่าด้วยจุดประสงค์ทางการเมือง บ้างไม่พอใจนโยบายรัฐ การกระทำของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่และชาวบ้านมีปัญหาขัดแย้งกันพื้นที่ เผาเพื่อ ล่าสัตว์ หาของป่า ขยายพื้นที่ทำกิน และเลวร้ายกว่านั้น คือ เผาป่า เบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ เพื่อการลักลอบขนยาเสพติด
4 ผืนป่าอนุรักษ์“จุดเสี่ยง”ก่อควันไฟ-ไหม้ซ้ำซาก
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด คือ จ. เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง นาน แพร่ ตาก พะเยา กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี มักพบว่า ในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องฤดูแล้ง ตั้งแต่ปลาย ม.ค.-เม.ย.ของทุกปีจะเกิดปัญหามลพิษจากหมอกควัน เนื่องจาก สภาพอากาศปิด ลมนิ่ง หมอก ควัน ไม่สามารถลอยตัวจากพื้นที่ได้
แม้ที่ผ่านมาไทย จะเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนตอนบน (ไทย ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม) ที่มีนโยบายควบ คุมไฟป่า อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังคงเกิดปัญหา “พื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก”
ในพื้นที่ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย แม่ปิง -อมก๋อย-แม่ตื่น ในอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ล้อมรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล รอบต่อ 4 จังหวัด ลำพูน เชียงใหม่ ตาก ลำปาง พื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก 581,872 ไร่
พื้นที่ สาละวิน-แม่สะเรียง อ.ใต้สุดของ จ.แม่ฮ่องสอน ต่อกับแม่น้ำสาละวิน พรมแดนธรรมชาติไทย-เมียนมา จำนวน 558,486 ไร่
ลุ่มน้ำปาย -ลุ่มน้ำปายฝั่งซ้าย น้ำตกแม่สุรินทร์ อ.ปายและอ.เมือง แม่ฮ่องสอน 311,883 ไร่ และเขื่อนศรีนครินทร์ เหนือสุดของจ.กาญจนบุรี จำนวน 166, 689 ไร่
แม่ปิง-อมก๋อย-แม่ตื่น “ป่าเต็งรัง” แหล่งเชื้อเพลิง
ในปี 2564 คณะทำงาน ฯได้ศึกษาการเคลื่อนตัวของไฟป่า การเคลื่อนที่ของแนวไฟ พบว่า อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เขตรัก ษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าแม่ตื่น เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ล้อมด้วนเขื่อนภูมิพล มีแม่น้ำปิง เป็นแนวกั้น แต่สภาพพื้นที่เป็นป่าเต็งรัง ไม้จะผลัดใบในช่วงฤดูแล้ง จึงกลายเป็นแหล่งเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดไฟป่าขนาดใหญ่
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
โดยพื้นที่ที่มีไฟป่าซ้ำซากอยู่บริเวณตอนใต้ของอุทยานฯแม่ปิง ที่เรียกว่า “ทุ่งกิ๊ก” และบริเวณใกล้ “ผาแดง” ซึ่งตรวจพบความถี่ไฟป่ากว่า 22 ครั้ง จากระยะเวลา 22 ปี ส่วนพื้นที่ อื่น ๆ ของอุทยานฯพบไฟป่า 10-15 ครั้ง
ส่วนในฝั่งอมก๋อย พบไฟป่าในร่องห้วย ต่าง ๆ ที่ไหลลงแม่น้ำปิง และห้วยอุ้มปาด จุดไฟป่าซ้ำซากถี่มากถึง 20 ครั้งจากพฤติกรรม ล่าสัตว์ หาของป่า เลี้ยงวัว ห้วงระยะเวลา 22 ปีเช่นเดียวกัน การเคลื่อนตัวของไฟป่าจากช่วงเวลาที่ดาวเทียมตรวจพบ มีทั้ง เผาไล่ช้างป่า ในจุดที่เกิดไฟป่าประจำทุกปี และการเผาของชาวบ้าน
รัฐกะเหรี่ยง-กะยา “ไฟป่า” เผาไหม้ข้ามแดน
อุทยานแห่งชาติสาละวิน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน แม้จะเป็นพื้นที่ภูเขา ทุรกันดาร แต่ทุก ๆ ปียังเกิดปัญหาฝุ่นควันข้ามแดนจากปัญหาไฟป่า เนื่องจากสภาพพื้นที่ทิศเหนือ ด้าน อ.แม่ลาน้อย ติดกับ รัฐกะเหรี่ยง และรัฐกะยา ฝั่งเมียนมา
ขณะที่ ทิศตะวันออก ติดกับอ.แม่แจ่ม และอ.ฮอด จ.เชียงใหม่ และทิศใต้ติดกับ อ.สบเมย
ส่วนทิศตะวันตก ติดกับรัฐกะเหรี่ยง มีแม่น้ำสาละวินขวางกั้น ซึ่งในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา พบข้อมูล การเผาไหม้ส่วนใหญ่ อยู่บริเวณแนวตะเข็บขายแดน ทั้งด้านเหนือและตะวันตก พื้นที่รอยต่อของป่าติดกับรัฐกะเหรี่ยงและรัฐกะยาของเมียนมาร์ ซึ่งมีไฟป่ารุนแรงซ้ำซากที่รุนแรงมากกว่าปัญหาในประเทศไทยมาก ไฟป่าด้านนี้ เข้าประชิดข้ามชายแดนมายังประเทศไทยบ่อยครั้ง
พื้นที่เกิดไฟป่าไหม้ซ้ำซาก ระหว่างปี 2543-2564 จะเกิดขึ้นบริเวณมุมพรม แดนตะวันตกและด้านเหนือในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน โดยเกือบทุกปี จะมีไฟป่าขนาดใหญ่ข้ามแดนมาจากรัฐกะเหรี่ยง และรัฐกะยาของเมียนมาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ทั้งนี้ ไฟป่าจากรัฐกะเหรี่ยงจะมีความุนแรงและมีขนาดใหญ่กว่าไฟจากรัฐกะยา
ไฟป่าแม่น้ำปาย-แม่ฮ่องสอน “ต้นตอ” ฝุ่น PM 2.5
จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งกำเนิดปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 สูงสุดของภาคเหนือ และเป็นจังหวัดที่มีปัญหาไฟฟ้ามากที่สุดของประเทศไทย เดือนมี.ค. 2564 เคยตรวจพบจำนวนจุดความร้อนมากว่า 600 จุด/วัน เหตุจากสภาพภูมิ ประเทศเป็นเขตป่าเต็งรังมากกว่า 85 % ของพื้นที่ทั้งหมด และจะทิ้งใบในช่วงฤดูแล้ง กลายเป็นแหล่งเชื้อเพลิงขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ในเขตป่าอนุรักษ์ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อน และส่วนใหญ่มีชุมชนกลุ่มชาติ พันธุ์อาศัย ใช้ประโยชน์จากป่าเป็นหลัก ใช้ไฟเป็นเครื่องมือดำรงชีพ ทำให้รัฐไม่สามารถแก้ปัญหา หมอก ควัน ได้ เพราะวิถีชุมชนไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐในพื้นที่ อ.ปาย และอ.เมืองแม่ฮ่องสอน พบพื้นที่เผาไหม้ร้อยละ 85-90 อยู่ในพื้นที่ป่า
ขนาดพื้นที่เผาไหม้จะขึ้นอยู่ตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ทั้งเอลนีโญ และลานีญา โดยพื้นที่เผาไหม้ซ้ำซากซ้อนทับกันเกิน 5 ปี จะอยู่ในบริเวณสองฝั่งแม่น้ำปายเกือบทั้งหมด และพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของแม่น้ำปายก็ตรวจพบเผาไหม้ซ้ำซากมากกว่า 15 ปี
จากข้อมูล 22 ปี มีข้อน่าสังเกตว่า ยิ่งห่างแม่น้ำออกมาเท่าไหร่ ความถี่ของไฟป่าจะลดลงตามลำดับ จึงอนุมานได้ว่า จุดกำเนิดของไฟป่าอยู่ใกล้แม่น้ำปาย และเป็นฝีมือมนุษย์ที่ใช้เส้นทางน้ำเป็นทางสัญจร
ป่าตะวันตก“ไฟป่า” จนท.บริหารเชื้อเพลิง-ชาวบ้านหาของป่า
ภาคตะวันตก ด้านจ.กาญจนบุรี เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มักพบ ปัญหาไฟป่าในทุก ๆ ปี แม้สภาพพื้นที่จะล้อมรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนัครินทร์ มีอุทยานแห่งชาติเอราวัณอยู่ทางตอนใต้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ อยู่ทางตะวันออก ขณะที่ด้านตะวันตกติดกับอุทยานแห่งชาติลำคลองงู
ตั้งแต่ปี 2543-2564 พบตำแหน่งเผาไหม้ซ้ำซาก ในเขต อ.ศรีสวัสดิ์เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรกรรมมีการใช้ไฟเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไฟป่า มักจะเกิดบริเวณแนวตะเข็บระหว่างพื้นที่รอยต่อของเกษตรกร ต.ท่ากระดาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เช่นเดียวกับ มุมลับสายตาที่อยู่ตรงร่องเขาแคบ ๆ ด้านเหนือสุดของพื้นที่อุทยาน ฯ เขื่อนศรีนักครินทร์
ขณะที่ไฟป่าด้านทิศเหนือ เกิดบริเวณช่องแคบทางน้ำก่อนจะเข้าสู่รองเขาที่มีหลีบมากมาย และอยู่ในจุดลับสายตา ในปี 2564พบเส้นรอบรูปกองไฟ จากการจุดเผามีขนาด 280,000 ไร่ หากย้อนข้อมูลกลับไปในปี 2562-2563 พบ จุดกำเนิดไฟป่าบนตลิ่งทั้งสองฝั่งของช่องแคบนี้ทุกปี จึงเป็นตำแห่งที่ควรเฝ้าระวังและติดตามมากที่สุด
กลุ่มไฟป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จุดกำเนิดไฟอยู่ในป่าชุมชนบ้านน้ำพุ
กลุ่มไฟป่าทิศตะวันออก เกิดจากการเผาแปลงเกษตรและการเผาพื้นที่เนินเขา เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ในวันเดียวกัน ไฟกลุ่มนี้มีขนาดเส้นรอบกองไฟ 172,000 ไร่ พฤติกรรมไฟน่าจะเกี่ยวข้องกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ และเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
กลุ่มไฟป่าตะวันตก มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มไฟด้านเหนือ เกิดจากากรเผาป่าโปร่งที่มีลักษณะถูกไฟป่าประจำสองแห่ง สนันนิษฐานเป็นการบริหารเชื้อเพลิงของเจ้าหน้าที่ หรือเป็นการหาของป่า ไฟกลุ่มนี้มาขนาดเส้นรอบกองไฟ 124,000 ไร่
ส่วนกลุ่มไฟด้านใต้เป็นการเผาชายป่าใกล้แปลงเกษตร มีขนาดเส้นรอบวง 58,000 ไร่ สันนิษฐานว่า เป็นการบริหารเชื้อเพลิงของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเป็นการหาของป่า ทั้งสองกลุ่มไฟต้องหาข้อมูลเชิงลึกมาทำการวิเคราะห์ต่อไป
ข้อเสนอเชิงนโยบาย แก้ไฟไหม้ป่าซ้ำซาก
นอกจากนี้ รายงานฉบับดังกล่าวยังจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหา คือ ระดับประเทศ ควรมอบหมายให้หน่วยงานที่มีความเป็นกลางทางข้อมูล เช่น GISTDA จัดเก็บและบริหารข้อมูลสาธารณเกี่ยวกับการเผาในที่โล่งระดับชาติแบบเกือบเป็นปัจจุบัน
ทั้งข้อมูลจุดความร้อน และพื้นที่เผาไหม้ ประมวลจากดาวเทียม มีสถิตย้อนหลังทุกกลุ่มข้อมูลอย่างละเอียด และให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าถึงชุดข้อมูลได้
ระดับระหว่างประเทศ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้าภาพ ร่วมมือกับเพื่อนบ้าน เก็บ แลกเปลี่ยน ประมวล และวิเคราะห์ข้อมูลการเผาในที่โล่ง อย่างต่อเนื่อง โดยมีมาตรการระยะสั้น และระยะยาว
ต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ไหม้ซ้ำซาก ใน 4 พื้นที่ กำหนดให้ลุ่มแม่น้ำปิง-อมก๋อย-แม่ตื่น เป็นพื้นที่ต้นแบบแก้ปัญหาไฟป่า
รวมทั้ง การจัดตั้งสถาบันไฟป่า ,พัฒนากลไกคาร์บอนเครดิต, ให้องค์กรธุรกิจที่สร้างมลพิษเข้ามาช่วยเหลือในการป้องกันไฟป่า และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชาวบ้าน ดำรงชีวิตร่วมกับป่าไม้อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างภูมิคุ้นกันภาวะโลกรวน
อ่านข่าว:
ฝุ่นข้ามแดน"เผาพื้นที่เกษตร" รัฐฉาน สะเทือนการค้า-การลงทุน
เปิดลายแทงฉบับ "ลุงตู่" แก้พิษฝุ่นเมือง-ข้ามแดน ต้องเสี่ยงขัดแย้ง
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- ไฟป่า
- ฝุ่น PM 2.5
- ฝุ่นพิษเมือง
- เผาป่าภาคเหนือ
- เผาป่าอนุรักษ์
- จุดไฟเผาป่า
- ชาวบ้านจุดไฟเผาป่า
- เผาป่าทำการเกษตร
- ฝุ่นกทม.
- ไฟไหม้ป่าพรุ
- งบดับไฟป่า
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
- รัฐบาลลุงตู่
- ไฟไหม้ซ้ำซาก
- ไฟไหม้ซ้ำซาก 4 ผืนป่าอนุรักษ์
- รายงานพิเศษข่าวสิ่งแวดล้อมวันนี้
- ข่าวสิ่งแวดล้อม
- ข่าวสิ่งแวดล้อมวันนี้
- เจาะข่าวจริงกับไทยพีบีเอส