ยังไม่หมดลาย ออกมาค้านไม่เอา “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ในที่สุด “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมานั่งเป็นประธานหัวโต๊ะในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ หลังประชุมเสร็จสิ้น “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” อดีตรมช.กระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ ออกมาแถลงคัดค้านการให้ใบอนุญาตการมีบ่อนกาสิโนในประเทศไทย
โดยให้เหตุผลการคัดค้านโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะส่งกระทบ 3 ด้าน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล จะนำไปสู่ปัญหาการติดการพนันและหนี้ครัวเรือนที่รุนแรงหนักหน่วงขึ้น เป็นปัญหาใหญ่ทำลายวัฒนธรรมครัวเรือนของไทย
อ่านข่าว "วิสุทธิ์" ชี้ปม "ทักษิณ" พักชั้น 14 ทำตามขั้นตอนในสมัย "ประยุทธ์"
ส่วนเรื่องพนันออนไลน์ รัฐบาลควรจะเน้นการปราบปรามให้คืบหน้ามากกว่า มีตัวอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ที่สั่งปิดเว็บไซต์พนันได้กว่า 3,000 เว็บไซต์ ผลประ โยชน์ต่อการท่องเที่ยวมีน้อย เพราะจุดขายไทยอยู่ที่วัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และจุดอ่อนเหล่านี้จะนำไปสู่ปัญหาการฟอกเงิน พปชร.จึงคัดค้านกฎหมายฉบับนี้
และวันที่ 5 ก.พ.นี้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. จะนำคณะกรรมการบริหารพรรค คณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค และสส. แถลงข่าวคัดค้านการเปิดกาสิโนเสรี ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจังอีกครั้งที่รัฐสภา เพื่อชี้ให้เห็นว่าในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวยังมีการหมกเม็ด และซ่อนเงื่อนเอาไว้อย่างไร โปรดติดตาม
อ่านข่าว โค้งสุดท้ายชิง อบจ. นโยบาย-กระแส-หรือกระสุน
แชมป์เงินบริจาค คุยได้เสียงดัง สส.มุ่ง “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” สส. โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) บอกว่า ปี 2568 พรรครทสช. ดีเอ็นเอ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มาเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนเงิน 17,934,107.84 บาท
เรียกเสียงฮือฮาพอสมควร หลังจากหัวหน้าพรรคฯ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงพลังงาน มีข่าวจะถูกปรับออก หลังก่อนหน้านี้ “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อนายก ฯ ขู่และขิงใส่ว่า อาจอยู่ร่วมกันไม่ได้ และจะปรับลดราคาไฟฟ้าและพลังงานให้ลดลงกว่าที่กระทรวงพลังงานเคยเสนอมา
โฆษกมุ่ง “อัครเดช” บอกว่า จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ทั้งในส่วนของ สส.ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร และในส่วนของรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายบริหาร อย่างสุดกำลังเต็มความสามารถ รวมทั้งจะพัฒนาพรรคฯ ให้เข้มแข็ง
พร้อมย้ำจุดยืนในการทำงานผ่านร่างกฎหมายต่าง ๆ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือพ.ร.บ.สุรารวมไทย ที่ช่วยทลายทุนผูกขาด, ร่าง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า และ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และร่างกฎหมายอื่นๆ ที่กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ป่วยทิพย์ ยังไม่จบ วันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าให้ปากคำเพิ่มต่อคณะกรรมการไต่สวนป.ป.ช.กรณี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ป่วยทิพย์ที่รพ.ตำรวจชั้น 14 ยืนยันว่ามีข้อมูลใหม่เรื่องเวชระเบียน
อ่านข่าว "เสรีพิศุทธ์" ให้ข้อมูลเพิ่มปม "ทักษิณ" ป่วยทิพย์
ให้ข้อมูลครั้งแรก ยังไม่ครบถ้วน และโดยข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป จึงขอเข้าชี้แจงเพิ่มเติม หลังมีความเห็นจากแพทยสภา และข้อมูลล่าสุดของเวชระเบียน ที่โรงพยาบาลตำรวจ บันทึกและแยกไว้ ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
รวมทั้งข้อมูลที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม อ้างอิงถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่นายทักษิณ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งมีใบเสร็จแสดงเป็นหลักฐาน ก็สามารถตรวจสอบอาการป่วย และเหตุที่ต้องส่งตัวเข้ารักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำว่า ประเด็นการนำตัว “ทักษิณ” ออกจากเรือนจำไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายกำลังรอ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา แผนคดีอาญานักการเมือง จะพิจารณาคำร้องที่ขอให้ตรวจสอบสั่งการไต่สวนข้อเท็จจริงหรือไม่อยู่ด้วย
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งกรณี ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ ดำเนินการไต่สวนฯ และออกหมายจับ ทักษิณ มาขังไว้ตามหมายของศาลฯ เนื่องจากที่ผ่านมานายทักษิณ ไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา และถูกส่งตัวไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ
นายชาญชัย ในฐานะผู้ยื่นคำร้องฯ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ศาลฯนัดฟังคำสั่งคำร้องในคดี "ทักษิณนอนพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ" โดย ศาลฯ อ่านคำสั่งว่า
คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการ จึงให้เลื่อนฟังคำสั่ง และเมื่อมีคำสั่งเพิ่มเติมแล้ว ศาลฯจะแจ้งให้ผู้ร้องมาฟังคำสั่งเพิ่มเติมในภายหลัง โดยไม่ได้ระบุว่าจะมีคำสั่งในวันใด และยังห้ามไม่ให้ผู้ร้องเผยแพร่หรือถ่ายภาพคำร้องฯใดๆ เพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
“ศาลฯ บอกว่า คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการ ให้เลื่อนฟังคำสั่งในวันนี้ (27 ม.ค.) และเมื่อมีคำสั่งเพิ่มเติมที่จะแจ้งให้ทราบ ให้ผู้ร้องมาฟังคำสั่งเพิ่มเติมทีหลัง โดยไม่ให้เผยแพร่คำร้อง เพราะว่ายังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี” นายชาญชัย กล่าว
อ่านข่าว ดรามา "รถไฟฟ้าฟรี" ลดฝุ่นตัวเลขพุ่ง 1.63 ล้านคนต่อเที่ยว
140 ล้านบาท…พูดไม่หมด ??? “จั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัคร ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่น่าตกใจกว่าเรื่องค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงเป็นหมอกปกคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ และมีผลกับสุขภาพของชาว กทม.เป็นวงกว้าง ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม มีนโยบายจะให้พี่น้องประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยจะใช้งบกลางชดเชยเป็นจำนวนเงิน 140 ล้านบาท
พลันที่ประกาศออกมาเป็นนโยบาย ก็มีเสียงไม่เห็นด้วยออกมามากมายจากพี่น้องประชาชนว่าการทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร เพราะคนที่ใช้รถส่วนตัวก็จะยังใช้รถส่วนตัวอยู่ เพราะมีความสะดวกมากกว่า เหมือนจะเป็นการเอาภาษีพี่น้องประชาชนมาผลาญเล่นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
มีรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมพบว่า 140 ล้านบาทที่จ่ายไปนั้น เป็นการชดเชยแค่รถเมล์และรถไฟฟ้าในส่วนของกระทรวงคมนาคมเอง เช่น รถเมล์และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีชมพูและสายสีแดง
สกลธี บอก งงเพราะคิดว่ารัฐบาลเปิดตัวเลขไม่หมด เพราะหัวใจหลักของรถไฟ ฟ้าที่คนกรุงเทพฯ ใช้บริการเยอะคือสายสีเขียวที่วิ่งเชื่อมต่อจากปทุมธานี เข้ากรุงเทพฯ ในพื้นที่ไข่แดง และไปที่สมุทรปราการต่างหาก ซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ 1,000,000 เที่ยวคนต่อวัน
การออกข่าวว่าใช้งบกลางแค่ 140 ล้านบาท น่าจะการปิดบังตัวเลขที่แท้จริงเพราะ 140 ล้านบาท เป็นเพียงค่าชดเชยในส่วนรถไฟฟ้าที่กำกับโดยกระทรวงคมนาคม ไม่รวมสายหลักสีเขียวของ กทม. ซึ่งคนใช้เยอะมากๆ และน่าจะต้องชดเชยเกิน 140 ล้านบาทแน่นอนซึ่งวงเงินรวมที่รัฐบาลต้องออกงบกลางมาชดเชยจะไปสุดตรงไหนก็ไม่รู้ ???
รัฐบาลต้องพูดออกมาให้ชัดครับและแจ้งกับพี่น้องประชาชนให้ครบทุกข้อมูลครับ ประชาชนคนไทยมีสิทธิที่จะรู้ว่ารัฐบาลใช้เงินภาษีของเค้าเท่าไหร่และอย่างไร
อากาศเย็นขึ้น ลมแรง แต่ฝุ่น PM 2.5 ยังอยู่อีกนาน ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าฟรี ตอบโจทย์การมีลมหายใจสะอาดได้อีกกี่วัน
อ่านข่าวอื่นๆ
DSI ส่งสำนวนอัยการสั่งฟ้อง "หมอบุญ-พวก" ฉ้อโกงประชาชน