วานนี้ (22 ม.ค.68) ตามที่ปรากฏในข่าวในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับแอปพลิเคชันตามหาเหรียญ “Jagat” ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นเงินได้ โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวเปิดให้เล่นในพื้นที่ 5 จังหวัดของประเทศไทย คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และ ชลบุรี (พัทยา)
- รู้จัก Jagat โซเชียลแอปฯ จากอินโดฯ กับฟีเจอร์ฮิต "ล่าเหรียญแลกเงิน"
- อินโดฯ เผชิญปัญหาล่าเหรียญ Jagat กระทบปชช.-พื้นที่สาธารณะเสียหาย
ทั้งนี้ แอปฯดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดฟรี ผ่าน Play Store แต่ฟีเจอร์บางอย่าง ในแอปพลิเคชันต้องมีการเก็บเงิน ทำให้ผู้บริโภคอาจเผลอไปกดสมัครแบบเสียเงินรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี และมีผู้เล่นเข้าไปเก็บเหรียญในพื้นที่ส่วนบุคคลและพื้นที่สาธารณะที่อาจส่งผลกระทบหรือสร้างความรำคาญต่อประชาชนทั่วไปโดยรวม นั้น
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่า แอปพลิเคชัน “Jagat” คือ แพลตฟอร์มจากประเทศอินโดนีเซียแต่ได้รับการจดทะเบียนที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ได้แบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ สคบ.ได้ประสานไปยัง Competition and Consumer Commission of Singapore (CCCS) เพื่อขอนัดประชุมหารืออย่างเร่งด่วนในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
รวมทั้งจะมีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.), กองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (สป.ดศ.), สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.), กรมการปกครอง และจะแจ้งให้บริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนและหามาตรการป้องกันรวมทั้งแนวทางแก้ไขปัญหา โดยจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบในลำดับต่อไป
หากผู้บริโภคท่านใดได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจดังกล่าวสามารถร้องเรียน มายังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้วยตนเอง
อ่านข่าว : "ดีอี-ตร.ไซเบอร์" ชี้ แอปฯ "Jagat" ยังไม่พบผิดกฎหมาย
กระแสล่าเหรียญ "Jagat" แลกเงิน - ตร.เฝ้าระวังอาชญากรรม
ตร.ไซเบอร์ จับตา ล่าเหรียญ "Jagat" - จ่อตรวจสอบแอปฯ