วันนี้ (18 ม.ค.2568) โพสต์ข้อความอ้างผลสำรวจเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของนายธนกร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ระบุสถาบันทางวิชาการหลายสำนัก สอดคล้องในทิศทางเดียวกันว่า คนไทยราวร้อยละ 55 ขึ้นไป ไม่ต้องการให้รัฐบาลเปิดกาสิโน อีกประมาณร้อยละ 17-18 อยู่ตรงกลาง และราวร้อยละ 25-28 ที่เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย
ประชาชนส่งเสียงมานานนับ 10 ปี แถมผลสำรวจบางชิ้นเคยปรากฏอยู่ในรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร แต่รัฐบาลไม่เคยรับฟัง กลับด้อยค่าความเห็นของประชาชนว่า "คนพวกนี้รับเงินจากทุนสีเทาเพื่อมาล้มโครงการของรัฐบาล"
เงียบ=ยอมรับ ได้เวลาส่งเสียง "เราไม่เอากาสิโน"
ความเห็นของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่ได้มีปัญหาที่จะทำให้กาสิโนถูกกฎหมาย เพียงต้องรัดกุมรอบคอบ เกิดความโปร่งใสในการประมูลใบอนุญาตแต่ละใบ รวมไปถึงการป้องกันการฟอกเงิน การบรรเทาผลกระทบปัญหาสังคมที่จะตามมา แต่ก็ยังไม่เห็นความชัดเจนในร่างกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งพรรคประชาชนเตรียมข้อมูลที่จะแก้ไขในแต่ละมาตราเอาไว้อย่างเข้มข้น ทั้งการเลือกจังหวัดต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ การเตรียมการสำหรับป้องกันการฟอกเงิน การป้องกันปัญหาทุนเทาเข้ามาครอบงำ รวมถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องกำหนดกรอบให้มีความชัดเจนมากขึ้น
ขณะความเห็นของนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยว่า นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว หลายประเทศทำเงินจากธุรกิจนี้ได้กว่าปีละ 1 ล้านล้านบาท อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว และเมียนมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม High-Spender หรือกลุ่มมีศักยภาพใช้จ่ายสูง โดยมีธุรกิจการพนันเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากรัฐบาลทำสำเร็จ
คาดการณ์ว่า รายได้ของผู้ประกอบการกาสิโนจะอยู่ที่ 69,583 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 ของจีดีพี ขณะที่รัฐบาลจะมีรายได้ 36,048 หมื่นล้านบาท ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 105,631 ล้านบาท แต่ต้องยอมรับว่าผลกระทบที่ตามมามีทั้งบวกและลบ รวมถึงมีมาตรการดูแลและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะมาตรการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนัน
อ่านข่าวอื่น :