วันนี้ (23 ธ.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีข่าวว่ามีการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในประเทศเมียนมา บริเวณใกล้กับชายแดนจ.ตาก ของไทย
ขณะนี้กระทรวงกลาโหม กองทัพ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกันดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ ด้วยการปิดกั้นบริเวณชายแดนอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ได้ทุกฝ่ายรับทราบ ถึงความอันตรายของอหิวาตกโรค มีการแจกถุงมือและหน้ากากอนามัย เพื่อรักษาความสะอาด และรักษาสุขอนามัยในการดำเนินการต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใน 1 เดือนนี้ได้ประกาศขอความร่วมมือว่าอาจต้องปิดชายแดนชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการระบาดของโรค
อ่านข่าว ปิดด่านไทย-เมียนมา อหิวาตกโรคระบาดเมียวดี ป่วย 300 ตาย 2 คน
เส้นทางธรรมชาติที่คนเมียนมาใช้เดินทางในอ.แม่สอด จ.ตาก
ส่งทีมสอบสวนโรคระบาด
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่าขณะนี้ สธ.สนับสนุนทีมช่วยสอบสวนโรค เพื่อไปช่วยควบคุมสถานการณ์ โดยเชื่อว่าน่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในเมียนมาให้ดีขึ้น
ส่วนในไทย ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินส่วนหน้า โดยมีแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ไปบัญชาการเหตุการณ์
โดยจะมีการสอบสวนควบคุมโรคในผู้ป่วยทุกคนที่เข้ามาในประเทศไทย
ขณะนี้พบผู้ป่วย 3 คน เป็นชาวเมียนมาที่เข้ามารักษาอาการที่โรงพยาบาลในไทย
อ่านข่าว สธ.ตั้งศูนย์ EOC ตากรับมือ "อหิวาตกโรค" เฝ้าระวังจุดเสี่ยงสูง
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า โรคอหิวาตกโรค เป็นโรคอุจาระร่วงอย่างรุนแรง ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อเป็นเชื้อแบคทีเรีย มียารักษา เมื่อรับเชื้อเข้าไปจะมีอาการท้องเสีย ขาดน้ำ ช็อก และอาจจะเสียชีวิตได้
การติดต่อนั้นเป็นทางการกินอาหาร น้ำดื่ม ที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนเชื้ออหิวาตกโรค แนะนำให้ประชาชนกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ รวมทั้งแหล่งที่มีการกระจายอาหาร เช่น ตลาด ต้องมีสุขาภิบาลที่ดี
ตอนนี้สั่งให้มีการล้างตลาด ล้างสุขา รวมทั้งดูแลความสะอาดของน้ำดื่ม น้ำแข็ง เชื่อว่าสถานการณ์ไม่เกินความควบคุม แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สถานการณ์ล่าสุดได้รับรายงานว่า เมืองฉ่วยโก๊กโก่มีผู้ป่วยรวม 300 คน เสียชีวิต 2 คน อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลฉ่วยโก๊กโก่ 56 คน ส่วนไทย มีผู้ป่วยเข้ารักษา 2 ราย ที่โรงพยาบาลแม่สอด 1 ราย และโรงพยาบาลแม่ระมาด 1 ราย ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการป่วยอหิวาต์รักษาไทยเพิ่มอีก 1 คน
ทหาร-ฝ่ายปกครองลงพื้นที่คุมเข้มเส้นทางธรรมชาติ สกัดโรคระบาด
คุมเข้มคนเมียนมาข้ามฝั่งไทย
ขณะที่ทหารกองร้อย ร.443 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด ลงพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ได้แก่หมู่บ้านแม่กื๊ดใหม่ หมู่ที่ 3 บ้านใหม่ริมเมย หมู่ที่ 10 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด และบ้านห้วยกะโหลก หมู่ที่ 10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด เพื่อประชา สัมพันธ์และให้ความรู้กับประชาชนตามบ้าน เรื่องโรคอหิวาตกโรคที่กำลังระบาดในพื้นที่เขตลงทุนของชาวจีนฝั่งเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้ามอ.แม่สอด และอ.แม่ระมาด จ.ตาก
นอกจากให้ความรู้เรื่องป้องกันโรคแล้ว ยังขอความร่วมมือป้องกันกลุ่มชาวเมียนมาที่ลักลอบข้ามมาฝั่งไทย เพราะอาจนำเชื้อมาแพร่ระบาดในฝั่งไทยได้ โดยมีการประกาศผ่านทางหอกระจายข่าวทั้งภาษาไทย และภาษาเมียนมา ให้ชาวบ้านเฝ้าระวังการระบาดของโรคอหิวาตกโรค
ส่วนกรณีมีผู้ป่วยชายและหญิง ชาวเมียนมา 2 คน ป่วยด้วยโรคอหิวาตกโรค รักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด จากการสอบสวนโรคพบว่าทั้ง 2 คนเดินทางข้ามมาจากฝั่งเมียนมา เพื่อมาเยี่ยมญาติในฝั่งไทย โดยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1
ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เฝ้าระวังป้องกันโรคแล้ว ส่วนจำนวนผู้ป่วยในฝั่งประเทศเมียนมา มีรายงานมากกว่า 450 คน และทางการไทยได้ส่งยาและเวชภัณฑ์บางส่วนเข้าไปให้การช่วยเหลือแล้ว
ตั้งข้อสังเกตแหล่งทิ้งขยะริมน้ำ
ขณะที่เพจ Drama-addict โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ลูกเพจคนไทยที่ข้ามไปทำงานที่เมียนมาส่งข้อมูลมา เรื่องการระบาดอหิวาตกโรคที่นั่น โดยระบุว่าระบาดเพราะมีปัญหาเรื่องความสปกปรก การขับถ่าย บางจุดมีแมลงวันจึงอาจเป็นสาเหตุการระบาด
ที่จริงเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว รักษาดันเองจ้างบุคลากรทางการแพทย์จากฝั่งไทยเข้าไปรักษา คุมไม่อยู่เพราะพฤติกรรมการบริโภคและขยะ