วันนี้ (20 ธ.ค.2567) การเห็นเพื่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้า จึงทดลองสูบตาม เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เยาวชนวัย 15 ปีคนหนึ่ง ทดลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าจนติดมาเกือบ 1 ปี เริ่มตั้งแต่อายุ 13 ปีจนเริ่มมีอาการเจ็บคอ เหนื่อย หายใจไม่สะดวก จึงตัดสินใจไปหาหมอ และพบว่า ปอดอักเสบ ต้องเสียค่ารักษาหลักหมื่นบาท
เงินที่เคยนำไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า มาจากผู้ปกครองที่ให้เป็นค่าขนม ถูกนำไปซื้ออุปกรณ์การสูบทั้งหมด ซึ่งการเจ็บป่วยครั้งนี้ กลายเป็นบทเรียนให้เยาวชนรายนี้กับเพื่อน ๆ
ผลสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทยตั้งแต่ปี 2565 พบว่ามีการสูบเพิ่มสูงขึ้น 5.3 เท่า จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 3.3 เพิ่มเป็นร้อยละ 17.6 ขณะที่การใช้เงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนเฉลี่ยสูงถึงปีละ 26,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ได้จากผู้ปกครอง
ซึ่งเด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งหลอดลมจนถึงปอดอาจทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลัน ขณะที่สารนิโคตินส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและการเติบโตที่ไม่เต็มที่
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า จำเป็นต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ โดยเฉพาะแหล่งจำหน่ายขนาดใหญ่ ที่พบว่าคือช่องทางออนไลน์ถึงร้อยละ 70 เป็นหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องป้องปราม เพื่อปิดช่องทางการเข้าถึง
ด้านสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย แนะทางเลือกให้เด็กและเยาวชน นำเงินที่ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ไปออมหรือลงทุนทุกเดือน ซึ่งจะทำให้เห็นผลตอบแทนจากดอกเบี้ย และเงินส่วนนี้สามารถนำไปต่อยอดและใช้ประโยชน์ในอนาคต
อ่านข่าวอื่น :
"ทักษิณ" เปิดตัว "เจ๊หน่อย" ภรรยา "กำนันป้อ" ชิงเก้าอี้นายก อบจ.โคราช