ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“พิชัย” ชี้พบพิรุธ “ไชน่า เรลเวย์ฯ” เข้าข่ายนอมินี ส่งดีเอสไอสอบเชิงลึก

อาชญากรรม
1 เม.ย. 68
17:32
398
Logo Thai PBS
“พิชัย” ชี้พบพิรุธ “ไชน่า เรลเวย์ฯ” เข้าข่ายนอมินี ส่งดีเอสไอสอบเชิงลึก
อ่านให้ฟัง
06:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“พิชัย” ชี้พบพิรุธ “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10” อาจเข้าข่ายนอมินี เตรียมแถลง 4 เม.ย. พร้อมส่งดีเอสไอสอบเชิงลึก ประสานกรมที่ดินตรวจสอบข้อมูลที่ตั้งบริษัท-กรรมสิทธิ์ที่ดิน

วันนี้ (1 เม.ย.2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา

จากการลงพื้นที่ของ ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ พบความผิดปกติหลายประการ เช่น เมื่อไปตรวจสอบสถานที่ตั้งของบริษัท ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดรับสายโทรศัพท์หรือกดกริ่งที่อาคาร ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

พบว่ามีสิ่งผิดปกติค่อนข้างมาก และวันที่ 4 เม.ย.นี้ จะนำผลตรวจสอบเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งตนเป็นประธาน

รมว.พาณิชย์ กล่วอีกว่า มีความผิดปกติค่อนข้างมาก และเครือข่ายของบริษัทนี้ค่อนข้างกว้าง จะต้องตรวจสอบให้รอบด้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่มีการฮั้ว ไม่มีการปกปิด โปร่งใสชัดเจน และจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

โดยจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายนอมินีสูง หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ทั้งผู้ถือหุ้นคนไทยและต่างชาติ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท

ทั้งนี้การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ถือหุ้น 10 % ของบริษัท ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่กลับมีรถยนต์ใช้งาน ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจาก 10 % ของทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เท่ากับ 100 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่ถือหุ้นระดับนี้ควรมีฐานะที่มั่นคง กระทรวงพาณิชย์จึงได้รวบรวมข้อมูลและส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิด จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา

ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้คณะทำงานตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 อย่างเข้มงวด โดยวันนี้( 1 เม.ย.) รองปลัดกระทรวงพาณิชย์จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกรมสรรพากร โดยตั้งเป้าสรุปผลภายใน 7 วัน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์

เบื้องต้น พบว่ากรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นอีก 13 แห่ง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าบริษัทเหล่านี้รับงานจากที่ใดบ้าง และยังมีการดำเนินกิจการอยู่หรือไม่

แม้ว่าบริษัทนี้จะมีผู้ถือหุ้นชาวไทย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเข้าข่ายนอมินีหรือไม่ จึงได้ประสานกับกรมที่ดินเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ตั้งบริษัท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อกรรมสิทธิ์ที่ดิน

รมช.พาณิชย์ ย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าตรวจสอบบริษัทต่างชาติที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย

จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นหลายแห่ง โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัทนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2561 มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย และจากงบการเงินล่าสุดปี 2567 ระบุว่าประกอบกิจการด้านทรัพยากรมนุษย์และรับเหมาก่อสร้าง

ปัจจุบัน บริษัทมีกรรมการ 2 ราย ได้แก่ นายชวนหลิง จาง และนายโสภณ มีชัย โดยมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นแบ่งเป็น 49 % จีน และ 51 % ไทย อย่างไรก็ตาม พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นอีก 13 แห่ง ซึ่งอาจเข้าข่ายการฮั้วประมูลและกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยนอมินีและ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง

โดยที่ประชุมคณะทำงานจึงมีมติให้ตั้งคณะตรวจสอบย่อย 5 ชุด โดยแบ่งเป็น 3 ชุดแรก ตรวจสอบกรณีการเป็นนอมินีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงการใช้แรงงานผิดกฎหมาย และคุณภาพสินค้า อีก 2 ชุด ลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง และการถือครองที่ดินของบริษัทต่างชาติ ทั้งนี้ การตรวจสอบจะดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยมุ่งเน้นหาหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

อ่านข่าว:

 เดินทางแนวนอนปลอดภัย “แผ่นดินไหวเกิดอีก” แต่ไม่ใช่ภัยพิบัติ

“ซิน เคอ หยวน” สตีล บริษัทผลิตเหล็กก่อสร้าง “ทุนจีน-หุ้นไทย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง