สถานีโทรทัศน์รัสซียา 24 ของทางการรัสเซีย เผยแพร่ภาพของชายชาวอุซเบกิสถานวัย 29 ปี ซึ่งถูกทางหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย (FSB) จับกุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยของคดีลอบสังหาร พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ กลางกรุงมอสโกด้วยระเบิดในสกูตเตอร์ไฟฟ้า เมื่อวันอังคารที่ 17 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้คิริลลอฟเสียชีวิตพร้อมผู้ช่วย
ผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า ตนเดินทางเข้ามาที่มอสโกตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) โดยได้รับการเสนอเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,300,000 บาท เพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าว พร้อมมอบสิทธิการพำนักในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปด้วย
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนแห่งรัสเซีย ระบุว่า ทางการได้จับกุมชายคนดังกล่าวพร้อมผู้ช่วยอีก 1 คน โดยผู้ต้องสงสัยได้ติดตั้งระเบิดในสกูตเตอร์ไฟฟ้าและนำไปวางไว้หน้าอาคารที่คิริลลอฟพักอาศัยอยู่ จากนั้นจึงเฝ้าสังเกตการณ์โดยใช้กล้องหน้ารถที่เช่ามา ซึ่งภาพถูกส่งสัญญาณไปหาผู้สั่งการที่เมืองดนิโปรในยูเครนด้วย และกดระเบิดด้วยรีโมทเมื่อคิริลลอฟเดินออกมา โดยทางการรัสเซียกำลังเร่งสอบสวนหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการนี้เพิ่มเติม
ขณะที่ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) มีผู้คนมาวางดอกไม้แสดงความอาลัยต่อคิริลลอฟบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ท่ามกลางร่องรอยความเสียหายของอาคาร ซึ่งแสดงให้เห็นความรุนแรงระเบิด
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนี้ ซึ่งทางการยูเครนไม่ได้ละอายใจต่อการกระทำดังกล่าว และยิ่งจะสร้างความชอบธรรมให้กับปฏิบัติการพิเศษทางการทหารของรัสเซียในยูเครน
"รัสเซีย" ชี้ "ยูเครน" เคยใช้อาวุธเคมีต้องห้าม
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียเตรียมจะยื่นญัตติเกี่ยวกับการลอบสังหาร พล.ท.คิริลลอฟ เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พิจารณาในวันศุกร์นี้ (20 ธ.ค.) พร้อมทั้งย้ำว่า จะนำตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาลงโทษให้ได้
ขณะเดียวกัน ซาคาโรวา ยังระบุว่า ยูเครนเคยใช้ฟอสฟอรัสขาว ซึ่งเป็นอาวุธเคมีต้องห้ามตามอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี โจมตีกองกำลังรัสเซียด้วยโดรนหลายครั้งในช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ายูเครนมีการใช้อาวุธเคมีด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดหรือระบุหลักฐานที่ชัดเจนแต่อย่างใด
ด้านโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกรุงบรัสเซลล์ของเบลเยียม ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว แต่กล่าวถึงการเดินทางมาหารือกับทั้งทางสหภาพยุโรป และ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า เป็นโอกาสอันดีเพื่อหาทางรับประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครนต่อไป
อ่านข่าว : ศร.ไม่รับคำร้อง "สนธิญา" ร้อง “นายกฯ" เปลี่ยนแปลงแนวทางแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต”
"หลานม่า" เข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้าย ออสการ์ สาขาหนังนานาชาติยอดเยี่ยม