ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สธ.เดินหน้ายกระดับ ลดตีตรา-เลือกปฏิบัติ ผู้ติดเชื้อ HIV “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา”

สังคม
18 ธ.ค. 67
16:47
113
Logo Thai PBS
สธ.เดินหน้ายกระดับ ลดตีตรา-เลือกปฏิบัติ ผู้ติดเชื้อ HIV “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา”
สธ.เร่งยกระดับ “สถานบริการสุขภาพไทย” ลดการตีตราและเลือกปฏิบัติผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้เหลือ 10 % ภายใต้คำขวัญวันเอดส์โลกปี 2567 นี้ “Take The Rights Path”

วันนี้ (18 ธ.ค.2567) กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค และภาคีเครือข่ายประกาศเจตนารมณ์ ยกระดับ“สถานบริการสุขภาพไทย” โดยตั้งเป้าให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี มีประสบการณ์ถูกตีตราและเลือกปฏิบัติในสถานพยาบาลน้อยกว่าร้อยละ 10 ตามยุทธศาสตร์เอดส์โลกในปี 2030 ซึ่งประเทศไทยร่วมกับ โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) เข้าร่วมการขับเคลื่อนเรื่องนี้เป็นประเทศแรก ๆ ร่วมกับนานาชาติอีก 40 ประเทศ

โดยระหว่างวันที่ 8 -12 ธ.ค.2567 ทีมผู้เชี่ยวชาญของไทยและนานาชาติได้ลงพื้นที่ไปยังสถานบริการสุขภาพทั้ง 4 ภาค นครสวรรค์ เชียงราย นครราชสีมา สงขลา และกรุงเทพมหานคร ภายใต้ภารกิจร่วมเพื่อทบทวนการดำเนินงานลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี ในสถานบริการสุขภาพของประเทศไทย

การประชุมขององค์กรร่วมดำเนินการ กองโรคเอดส์ฯ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทย (TNP+) คณะกรรมการองค์การพัฒนาด้านเอดส์ และผู้เชี่ยวชาญของไทยและนานาชาติ

การประชุมขององค์กรร่วมดำเนินการ กองโรคเอดส์ฯ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทย (TNP+) คณะกรรมการองค์การพัฒนาด้านเอดส์ และผู้เชี่ยวชาญของไทยและนานาชาติ

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญนานาชาติได้เห็นศักยภาพสถานบริการสุขภาพ ที่สามารถลดการตีตราและเลือกปฏิบัติได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การทำงานแบบ Whole Provincial Apprach ใน จ.นครราชสีมา ที่สถานบริการสุขภาพทุกแห่งทั้งจังหวัด รวมพลังทำงานไปในทิศทางเดียวกัน

โรงพยาบาลแม่ลาว จ.เชียงราย เป็นตัวอย่างการทำงาน Total Facility Approach ทุกคลีนิคในโรงพยาบาล ไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี และประชากรหลัก ไม่เฉพาะคลีนิคยาต้านไวรัส

โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นตัวอย่างที่ดีที่มีการดำเนินแบบหุ้นส่วนบริการระหว่างโรงพยาบาลกับภาคชุมชน ภาคประชาสังคม

นพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค และหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย ระบุว่า ที่ผ่านมา การลดการตีตราและเลือกปฏิบัติเป็น 1 ใน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ที่กรมควบคุมโรค ดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 มีการอบรมแบบมีส่วนร่วมให้กับผู้รับบริการสุขภาพ พัฒนาและยกระดับสถานบริการสุขภาพด้วยหลักสูตรต่าง ๆ และขยายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2561

นพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค และหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย

นพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค และหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย

นพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค และหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย

นอกจากขับเคลื่อนผ่านโรงพยาบาล คือการทำงานร่วมกัน ทั้งภาคประชาสังคม และทีมของเครือข่ายผู้ติดเชื้อในพื้นที่ เพราะการจะลดการตีตราเลือกปฏิบัติ ทำโดยภาครัฐส่วนเดียวไม่ได้ ต้องทำผ่านทางเครือข่ายทางชุมชนด้วย เนื่องจากกลุ่มคนที่ทำงานด้านนี้ ส่วนหนึ่ง ก็จะเป็นผู้ที่เคยได้รับผลกระทบ แล้วก็กลับมาอาสาสมัคร เป็นผู้ที่จะขับเคลื่อนเพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ของเขา ได้ประสบการณ์ที่ดี

นพ.อนุวัตร ศุภชุติสกุล ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลสุขภาพ ระบุว่า เห็นความเป็นไปได้ จากการลงพื้นที่ในการขับเคลื่อนการลดการตีตราตามเป้าหมาย

“ที่โคราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ขับเคลื่อนทั้งจังหวัด ร่วมกับผู้ว่าฯ ประกาศเป็นนโยบายของจังหวัด ว่าจะสร้างวัฒนธรรมการไม่ตีตราขึ้นมา แล้วก็รณรงค์ให้ทุกโรงพยาบาลร่วมมือกัน ทางจังหวัด ก่อนหน้านี้ มีประสบการณ์ในเรื่องการทำงานพื้นที่นำร่อง ทำให้ไม่สามารถขยายไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ได้ตามที่ต้องการ เพราะฉะนั้น จังหวัดจึงเริ่มทุบหม้อข้าว คือ ไม่ทำนำร่อง แต่จะทำทั้งจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกโรงพยาบาลในจังหวัด จะทำร่วมกัน”

ด้าน นพ.ภานุมาศ ญาณเวทย์กุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันถึงความมุ่งมั่นลดการตีตราในสถานพยาบาล รวมถึง เรื่องงบประมาณที่เห็นสอดคล้องกับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ที่เห็นว่า ควรมีงบประมาณอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน

นพ.ภานุมาศ ญาณเวทย์กุล อธิบดีกรมควบคุมโรค

นพ.ภานุมาศ ญาณเวทย์กุล อธิบดีกรมควบคุมโรค

นพ.ภานุมาศ ญาณเวทย์กุล อธิบดีกรมควบคุมโรค

เรื่องตีตรา เราทำกันมาเยอะ เราอยากให้ทุกอย่างราบรื่นและดีหมด แต่เราก็ยังมีข้อที่เราต้องปรับในหลายๆ จุด เราต้องทำให้มากขึ้น ดีขึ้น

ข้อมูล ปี 2566 จากดัชนีการตีตรา พบว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 16 มีประสบการณ์ถูกตีตราและการเลือกปฏิบัติในสถานบริการสุขภาพที่เกี่ยวกับเอชไอวี หรือในสถานบริการสุขภาพที่เกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ

ขณะที่ประเทศไทยยึดหลักให้บริการ HIV ที่มีคุณภาพสูงและปราศจากจากการตีตรา เพื่อการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน และใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการยุติเอดส์ที่เป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขภายในปี พ.ศ.2573 และเกิดความยั่งยืนในระบบสาธารณสุขของประเทศ ภายใต้สโลแกน “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา”

สำหรับองค์กรที่ร่วมกันดำเนินภารกิจร่วม เพื่อทบทวนการดำเนินงานลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวีในสถานบริการสุขภาพของประเทศไทย ในครั้งนี้ ประกอบด้วย กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทย (TNP+) คณะกรรมการองค์การพัฒนาด้านเอดส์

ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ

ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ

ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ

และผู้เชี่ยวชาญของไทยและนานาชาติจาก RTI International, University of California San Francisco (UCSF), ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (US.CDC), องค์การพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID), กองทุนโลก (GFATM) และโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS)

อ่านข่าว :

ข่าวที่เกี่ยวข้อง