ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กนง. มีมติ คงดอกเบี้ย 2.25% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง

เศรษฐกิจ
18 ธ.ค. 67
14:51
654
Logo Thai PBS
กนง. มีมติ คงดอกเบี้ย 2.25% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง
กนง.มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 2.25% ในรอบการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ หลังมองเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง

วันนี้ (18 ธ.ค.2567) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวถึงผลการประชุม กนง. วันที่ 18 ธ.ค. ว่าคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.25 ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันจากภายนอกที่รุนแรงขึ้น และความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะแนวนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่ยังสามารถขยายตัวได้ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวปรับดีขึ้น

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยังฟื้นตัวได้ช้าโดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกกดดันจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง คณะกรรมการฯ เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับศักยภาพ เงินเฟ้อที่โน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่ปรับสูงขึ้น

โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยปี2567 มีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ 2.7 และปี2568 ขยายตัวร้อยละ 2.9 ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน รวมทั้งการส่งออกสินค้า หมวดอิเล็กทรอนิกส์และหมวดเครื่องจักรที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามวัฏจักรสินค้าเทคโนโลยี

ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวปรับดีขึ้น แต่ SMEs และภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่มยังถูกกดดันจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง กลุ่มยานยนต์มีพัฒนาการ แย่ลงจากทั้งปัจจัยด้านราคาและอุปสงค์ ส่งผลให้การฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนยังไม่ทั่วถึง

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.4 และปี2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ส่วนสินเชื่อน่าจะชะลอลง จากความต้องการลงทุนในบางสาขาธุรกิจที่ลดลง การชำระคืนหนี้ที่กู้ยืมไปในช่วงวิกฤตโควิด-19 และความเสี่ยงด้านเครดิตที่อยู่ในระดับสู งเช่น สินเชื่อของภาคท่องเที่ยวและบริการขยายตัวชะลอลงจากการชำระคืนหนี้และรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่สินเชื่อของธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่การแข่งขันรุนแรงขึ้น หดตัวตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ควรติดตามแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อและนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และผลของมาตรการ คุณสู้ เราช่วย ของภาครัฐที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับกลุ่มเปราะบางอย่างตรงจุด

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลงจากการประชุมครั้งก่อน ตาม การปรับคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยปรับลดลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะมีการติดตามพัฒนาการของตลาดการเงินโลกที่มีแนวโน้มผันผวนจากแนวนโยบายของประเทศเศรษฐกิจและผลกระทบต่อตลาดการเงินไทย เพื่อรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน

 

อ่านข่าว:

เงินบาทซื้อขาย 33.75-34.50 กรุงศรีฯชี้กนง.คงดอกเบี้ย

กองทุน SSF และ RMF ต่างกันอย่างไร เช็กเงื่อนไข ลดหย่อนภาษี

“พิชัย นริพทะพันธุ์” วานิชย์ สู่ ธนกิจการเมือง คุมปากท้องชาวบ้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง