วันที่ 14 ธ.ค.2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่) พร้อมมอบถุงกำลังใจ อาหาร และเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุ ที่อยู่ในความดูแลของศูนย์ฯ ร่วมชมการออกกำลังกายประกอบเพลง การใช้นวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ
นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.พม. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. คณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. คณะผู้บริหารกระทรวง พม. และทีม พม.หนึ่งเดียว จ.เชียงใหม่ ร่วมลงพื้นที่
นายวราวุธ กล่าวว่า การดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณภาควิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ส่งน้อง ๆ มาฝึกงานที่ศูนย์ฯ เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านกายภาพ
พม.มีโอกาสเห็นผู้สูงอายุในหลายๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ไปจนถึงผู้สูงอายุประมาณ 70 กลางๆ ที่มีกิจกรรม มีความสนุกสนาน ยังเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มผู้สูงอายุแอคทีฟติดสังคม นับว่าเป็นสิ่งที่น่าดีใจ
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่กระทรวง พม. ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และลำปางในครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ของผู้สูงอายุในภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.ลำปาง เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงที่สุดในประเทศไทย คิดเป็น 30 % และ จ.เชียงใหม่ มีสัดส่วนรองๆ ลงมา
เมื่อเวลาผ่านไปจากนี้อีกไม่ถึง 10 ปี จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มมากขึ้นในทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 5-6 แสนคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปถึงปีที่ 7 และปีที่ 8 จะเพิ่มขึ้นปีละประมาณล้านกว่าคน
จำเป็นที่กระทรวง พม. จะต้องจัดหาสถานที่ที่จะรองรับและดูแลพี่น้องกลุ่มผู้สูงอายุในหลายๆลักษณะไม่ว่าจะเป็น ลักษณะที่พอดูแลตัวเองได้เป็นกลุ่มที่ติดสังคม หรือกลุ่มที่ติดบ้าน หรือท้ายที่สุดเป็นกลุ่มที่ติดเตียง
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า การทำงานอย่างเช่นวันนี้ กระทรวง พม. ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งแค่ใน จ.เชียงใหม่ แต่ว่าในหลายๆ พื้นที่ที่กระทรวง พม. ดูแลอยู่ การทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน และการได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนนั้น เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะที่เป็นสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์แบบนั้น ทำให้เราต้องใช้ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ กำลังคน อุปกรณ์ เทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย
เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศไทยและสังคมไทยจะต้องเตรียมตัวในการเพิ่มขึ้นของพี่น้องผู้สูงอายุจำนวนมหาศาล ซึ่งคนเราทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน เด็กหรือผู้ใหญ่ ท้ายที่สุดเราจะเป็นผู้สูงอายุกันทั้งนั้น
การดูแลผู้สูงอายุ รวมไปถึงการเตรียมตัวที่จะเป็นผู้สูงอายุนั้น ไม่เคยสายเกินไป บางครั้งอาจจะต้องเรียนรู้ที่จะต้องเตรียมตัวตั้งแต่เป็นวัยรุ่น วัยทำงาน เพราะว่าจะต้องคิดถึงสภาวะทางการเงินและกิจกรรมต่าง ๆ ยามบั้นปลายของชีวิตด้วยเช่นกัน
หัวใจสำคัญคือ กระทรวง พม. ต้องการให้ผู้สูงอายุมีความกระฉับกระเฉง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Active ageing มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เราอยากจะให้ผู้สูงอายุอยู่ในสถานะเป็นผู้ติดสังคมให้มากที่สุดและให้นานที่สุด อีกทั้งทำให้ช่วงระยะเวลาของการติดบ้านและติดเตียงเป็นช่วงเวลาที่สั้นที่สุด เมื่อทำอย่างนี้ได้ ตนคิดว่าบุคลากรทางด้านสาธารณสุข รวมทั้งงบประมาณจะน้อยลงไปได้
อ่านข่าว : "วราวุธ" สั่งเร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง 4 จว.น้ำท่วมใต้ พร้อมเปิดศูนย์พักพิงเพิ่ม
ภาคใต้เสี่ยง "น้ำท่วม" อีกระลอก เตือนฝนตกหนักถึง 18 ธ.ค.
บุกค้น 5 จุด ผู้มีอิทธิพลคนสนิท "โกทร" เชื่อมโยงคดี "สจ.โต้ง"