ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ช่วยสำเร็จ 2 ลูกช้างป่าแก่งหางแมว ถูกเชือกรัดงวงเกือบขาด

Logo Thai PBS
ช่วยสำเร็จ 2 ลูกช้างป่าแก่งหางแมว ถูกเชือกรัดงวงเกือบขาด
สัตวแพทย์ จนท.นับร้อยทำงานแข่งกับเวลา ทำภารกิจเสี่ยงตายล่อลูกช้างออกจากโขลงแม่ ตัดเชือกที่รัดงวงจนเกือบขาดได้สำเร็จ คาดช้างยังใช้ชีวิตปกติได้

วันนี้ (4 ธ.ค.2567) นายสิรวิชย์ ทรัพย์เอนก นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ จากหลายหน่วยงานร่วมกันปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลูกช้างป่าแก่งหางแมว 2 ตัวที่ถูกเชือกรัดงวงได้สำเร็จ หลังจากเริ่มภารกิจเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา

โดยลูกช้างป่าตัวที่ 1 เป็นลูกช้างป่าที่ถูกเชือกรัดบริเวณปลายงวง ทีมยิงยาซึม ทำการยิงยาซึม จำนวน 1 เข็ม ลูกช้างป่าแสดงอาการซึม เมื่อเวลาผ่านไป 15 นาทีหลังจากให้ยา และลูกช้างยืนซึมนิ่ง มีเสียงกรน หลังจากได้รับยาซึมไปแล้ว 30นาที จึงให้ทีมเฝ้าระวัง ทำการผลักดันฝูงช้างป่า หลบเข้าไปในป่า

ทีมสัตวแพทย์ จึงได้เข้าไปตัดเชือกที่รัดปลายงวง และให้ทีมยิงยาซึม ยิงยาปฏิชีวนะ และ ยาแก้ฤทธิ์ยาซึม เข้าทางกล้ามเนื้อ อย่างละ 1 เข็ม ลูกช้างป่าเริ่มมีอาการรู้สึกตัว เดินได้ โบกหู เมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที หลังจากใหัยาแก้ฤทธิ์ยาซึม และฝูงช้างป่าได้พาลูกช้างป่า หลบเข้าไปในป่าอย่างปลอดภัย

ส่วนลูกช้างตัวที่ 2 ถูกบ่วงรัดกลางลำงวง ต้องใช้ผลไม้ ไปวางไว้ที่ลานดินเพื่อให้ฝูงช้างป่าออกมาหากิน จนกระทั่งลูกช้างป่าบาดเจ็บตัวที่ 2 ซึ่งโดนบ่วงรัดบริเวณกลางลำงวง เดินออกมาเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตฝูงช้างป่า

เมื่อพบลูกช้างป่าตัวเป้าหมายออกหากินกับแม่ช้างป่า จึงยิงยาซึมลูกช้างป่า  1 เข็ม แต่ไม่สามารถยิงยาซึมแม่ช้างป่าได้ เมื่อลูกช้างป่าถูกยาซึม จึงวิ่งเข้าป่า ทำให้แม่ช้างป่าวิ่งตามเข้าไปด้วย

กระทั่งเวลาผ่านไป 30นาทีที่คาดว่าลูกช้างได้รับยาซึม และยาซึมออกฤทธิ์เต็มประสิทธิภาพ จึงให้ทีมเฝ้าระวังเข้าผลักดันฝูงช้างป่า และแม่ช้างป่าออกจากลูกช้างป่า ซึ่งมีความอันตรายอย่างมาก

ในการทำงานต้องแข่งกับเวลา ทีมสัตวแพทย์จึงเร่งเข้าไปตัดเชือกที่รัดกลางลำงวง ตรวจสอบพบว่าเชือกรัดลำงวง ทำให้รูงวง ด้านขวาขาด แต่พิจารณาแล้วบาดแผลไม่ติดเชื้อ และแผลเริ่มตกสะเก็ด ซึ่งมีเนื้อเยื่อใหม่ปกคลุม แต่รูงวงด้านซ้ายยังคงปกติ จึงล้างแผล ให้ยาปฏิชีวนะ และยาแก้ฤทธิ์ยาซึม และทำภารกิจแล้วเสร็จ เวลา 17.00 น.

การช่วยเหลือลูกช้างภารกิจเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งถอนกำลังอย่างเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย คาดว่า ลูกช้างตัวที่ 2 จะสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ แม้อาจไม่สามารถใช้งวงหยิบจับได้เช่นเดิม แต่ยังต้องเฝ้าระวังติดตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง