วันนี้ (26 พ.ย.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช.ได้เรียกประชุม คณะกรรมการ ศปช.วาระพิเศษ เพื่อพิจารณางบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อนำไปใช้ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งนำเสนอโดยกรมชลประทาน เพื่อขออนุมัติ หลักการก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้
อ่านข่าว สัญจรนัดแรก ครม.แพทองธาร ลุยเชียงใหม่-เชียงราย 29 พ.ย.-1 ธ.ค.
เหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือเมื่อ 2 เดือนก่อน
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับการประชุมครม.สัญจรวันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี เป็นประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นการเดินทางไปตรวจราชการ รวมถึงการประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรก ของน.ส.แพทองธาร มีภารกิจหลายอย่าง
ทั้งติดตามปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงปัญหายาเสพติดบริเวณชายแดน พร้อมกับส่งเสริมการท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์อุทกภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่ให้เกิดการกระจายรายได้สู่ประชาชน
ชงครม.สัญจร แก้ปัญหาฝุ่นควัน-ไฟป่า
เช่นเดียวกับข้อเสนอของชาวบ้านในพื้นที่ต.น้ำแพร่พัฒนา อ.หางดง จ.เชียง ใหม่ เป็นหนึ่งในพื้นที่เคยประสบไฟป่า และหมอกควัน แต่หลังมีความพยายามอบรมการดับไฟป่า ให้กับชาวบ้านที่มีอาชีพหาของป่า ก็ทำให้คนกลุ่มนี้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นอาสาดับไฟ จนกลายเป็นพื้นที่ต้นแบบป้องกันไฟป่าได้สำเร็จ
เดช ไฝปัน กำนันตำบลน้ำแพร่พัฒนา อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ระบุว่า อยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนเครื่องมือที่ทันสมัยให้ชุมชนที่อยู่ใกล้ผืนป่า เช่น เครื่องเป่าลม ทำแนวกันไฟ และดับไฟ โดรน สำหรับบินสำรวจป่า และงบประมาณดูแลอาสาดับไฟ
อ่านข่าว ปิดแล้ว! คาเฟปลาคาร์ปผิด กม.สาธารณสุข-ไม่มีใบอนุญาต
เดช ไฝปัน กำนันตำบลน้ำแพร่พัฒนา อ.หางดง จ.เชียงใหม่
ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจ จ.เชียงใหม่ กังวลเรื่องปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล และท้องถิ่นที่ล้าช้า ไม่เพียงพอ จึงอยากให้รัฐบาลเน้นให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เป็นอันดับแรกๆ
เล็งยื่นทบทวน พ.ร.ฎ.โครงการอนุรักษ์กระทบชุมชน
ขณะที่กลุ่มสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า รวมตัวที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ระหว่างประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์ และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ
เพราะส่งผลกระทบกับประชาชนที่ทำกิน และอยู่อาศัยในพื้นที่อนุรักษ์ 460,000 ครัวเรือน หรือ 1.8 ล้านคน ส่งผลให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ระหว่างรัฐกับชุมชน คนอยู่ในป่า มากยิ่งขึ้น
ส่วนจ.เชียงใหม่ เตรียมเสนอแผนกับ ครม.สัญจร เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นควันและไฟป่ายั่งยืน 5 ปี และขอรับการสนับสนุนงบประมาณการแก้ปัญหา ภายใต้แนวคิด "ร่วมมือกันสร้างอากาศสะอาด" เน้นการบริหาร และบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ ลดแหล่งกำเนิด ควบคุม และลดมลพิษ โดยตั้งเป้าตัวชี้วัด คือ จุดความร้อนไม่เกินร้อยละ 25 พื้นที่เผาไหม้ไม่เกิน 25% และผู้จำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ต้องไม่เกิน 20% จากค่าเฉลี่ยย้อนหลังในรอบ 5 ปี
อ่านข่าว