ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พิรุธเอกสาร-เงิน 39 ล้านปม "ทนายสายหยุด" ถอนตัวคดีทนายตั้ม

อาชญากรรม
25 พ.ย. 67
16:09
1,372
Logo Thai PBS
 พิรุธเอกสาร-เงิน 39 ล้านปม "ทนายสายหยุด" ถอนตัวคดีทนายตั้ม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ทนายสายหยุด"เปิดใจผ่ายรายการโหนกระแส ยันถอนตัวคดี "ทนายตั้ม" หลังพบพิรุธเอกสาร แถมจะพ่วงคดีเงิน 39 ล้านบาท แนะรับรับสารภาพ แต่ทนายตั้ม จะขอสู้คดี

วันนี้ (25 พ.ย.2567) นายสายหยุด เพ็งบุญชู หรือทนายสายหยุดที่ได้รับมอบหมายจาก "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ให้เป็นผู้ทำคดีฉ้อโกง "มาดามอ้อย" จตุพร อุบลเลิศ จำนวน 71 ล้านบาท และคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับ นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความนางปทิตตา หรือเดือน ภรรยาของทนายตั้ม  เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ของนายกรรชัย กำเนิดพลอย ยืนยันถึงกระแสข่าวลือว่าจะขอถอนตัวจากการเป็นทนายความให้กับทนายตั้ม

ทนายอาคม บอกว่า ไม่ขอทำงานร่วมกับทนายตั้ม อย่าทำงานร่วมกันดีกว่าแยกกันเดิน แต่ให้คำปรึกษาได้ ส่วนที่ต้องทำคดีให้ภรรยาของทนายตั้ม เพราะภรรยาขอมา

นอกจากนี้นายอาคม ยอมรับว่าทนายสายหยุดได้ปรึกษาตัวเองและหารือกันแล้วว่าทัศนคติไม่ตรงกันแล้ว

ส่วนทนายสายหยุด กล่าวว่า คดีของทนายตั้ม มีทั้งหมด 3 กรรม คือเรื่องเงิน 71 ล้าน ,เรื่องคดีรถเบนซ์ และเรื่องจ้างแบบแปลนโรงแรม ซึ่งยึดถือแนวทางเดิน แต่พอเวลาผ่านไป 10 กว่าวัน เริ่มมีเรื่อง 39 ล้านเข้ามา และถ้าจะสู้ทั้ง 3 เรื่อง จึงแนะนำให้สารภาพ แต่ทนายตั้ม เขาไม่รับสารภาพยังจะสู้เหมือนเดิม เขาไม่ยอมรับเขาจะสู้หมดทุกเรื่อง

ทนายสายหยุด บอกอีกว่า เรื่องเงิน 39 ล้านบาท ตนสู้ไม่ได้ เพราะคนชื่อเล็ก ที่เป็นทหารเป็นคนขับรถให้ตั้ม ซึ่งเล็ก บอกทุกอย่างแล้วว่าไปรับเงินมา 20 ล้านบาท ไปส่งให้ยังไงบ้าง มองว่าทนายตั้มเขาเกี่ยวอะไรเยอะแล้ว

ผมประกาศว่าถ้าทนายตั้ม ไม่ทำตามแนวทางของตัวเอง คือรับสารภาพเรื่องเงิน เรื่องเงิน 39 ล้านบาท ก็สู้ไม่ได้แน่นอน เพราะรู้จากสื่อ เช่นคนชื่อเล็ก พี่ของเดือน และเขาบอกว่าเขาจะสู้ทุกเรื่อง 

อ่านข่าว จับตา! "ทนายสายหยุด" ยุติทำคดีทนายตั้ม-เปิดใจผ่านรายการดัง

ซึ่งบอกไปแต่ต้นว่าถ้าผิดชัด ตัวเองไม่ทำให้ และคดีจะมารวมกันไม่ได้ จึงไปยืนยันว่าถ้าคดี 71 ล้านบาท เบนซ์และแบบแปลนจะช่วยทำให้ แต่พอจะเอา 39 ล้านบาท  และเอกสารที่จะแจ้งข้อหาปลอมเอกสาร และจึงเข้าไปแจ้งกับทนายตั้ม และได้ไปคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้น และจะให้ไปนั่งทำคดี 

นายกรรชัย ถามว่า ในวินาทีที่บอกว่าจะไม่ทำคดีให้แล้ว ทนายตั้มร้องไห้หรือไม่ ทนายสายหยุด บอกว่า เขาไม่ได้ร้อง แต่หน้าเขาก็ซึม ๆ และได้บอกเขาว่าตนจะไม่ทำงานให้ทนายตั้มต่อแล้ว เขาก็พูดว่า แล้วพี่จะไม่ช่วยผมเหรอ

ก็บอกว่าจะช่วยได้เท่าที่ตนช่วยได้ แต่จะไม่ช่วยมาเป็นทนายให้แล้ว เพราะบอกตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าอะไรที่มันเกี่ยวข้องว่าพี่ตั้มผิดจริง ตนไม่ทำ

อ่านข่าว "ทนายอาคม" เข้าเยี่ยม "ทนายตั้ม" ขอข้อมูลคดีโอนทรัพย์สิน "เจ๊อ้อย"

นอกจากนี้ ทนายสายหยุด บอกว่า พบเรื่องข้อพิรุธของเอกสารที่พบว่าไม่ตรงกันกับเอกสารที่ตัวเองได้รับจากทนายตั้ม กับที่อาจารย์ปานเทพ นำมาโชว์พบว่าไม่ตรงกัน ซึ่้งหากนำไปให้ตำรวจตัวเองก็จะนำเอกสารปลอมไปให้ จะมีความผิดได้ จึงไม่ได้ยื่นเอกสารให้ตำรวจ

สำหรับคดีฉ้อโกงเงิน 39 ล้าน พนักงานสอบสวนได้ตัวพยาน ซึ่งเป็นคนขับรถทนายษิทรา มาสอบ ซึ่งพยานคนนี้ซัดทอดว่า รู้เห็นการวางแผนของนายษิทรา และยังรับจ้าง ด้วยเงิน 100,000 บาท ไปรับเงินส่วนแบ่ง ให้นายษิทรา 20 ล้านบาท จากธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม นายษิทรา ในเรือนจำเพิ่มอีกคดี

นายสายหยุด ยังเปิดเผยว่าคดีขณะนี้ ได้หลักฐานทางคดีบางอย่าง เช่น สัญญาจ้างทำแอปพลิเคชันขายหวยออนไลน์ กรณีคดี 71 ล้านบาท ก็พบว่า สัญญาจ้างไม่ตรงกับเอกสารที่นายษิทราเคยให้ จึงมีความลังเลว่าอาจจะไม่ตรงกับต้นฉบับ หรือ เป็นเอกสารปลอม ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดทนายความ ต้องรับผิดชอบด้วย

นายสายหยุด ระบุว่า หลังจากนี้ ต้องติดตามว่านายษิทรา จะแต่งตั้งใครเป็นทนายให้ หรืออาจเป็นทนายให้ตัวเอง ส่วนสาเหตุที่นายษิทรา ยืนยันว่าจะขอต่อสู้คดีนั้น นายษิทรา อาจจะคงมั่นใจว่าจะสามารถชนะคดีได้ และมองว่านายษิทรา อาจจะขอเจรจากับผู้เสียหายในชั้นศาล

อ่านข่าวอื่นๆ

หนี้นอกระบบพุ่ง สภาพัฒน์ฯ เผยแบงก์เข้มปล่อยกู้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง