หลังจากมีข่าววงใน กกต.ทราบจากสำนักงาน กกต.ว่า ยังมีคำร้องเกี่ยวกับหมอเกศ ในสำนวนอื่นอยู่อีก รวมทั้งเรื่องฮั้วเลือก สว. ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จึงให้ไปสอบสวนให้แล้วเสร็จทั้งหมดก่อน แล้วค่อยส่งให้ที่ประชุมกกต.พิจารณาในคราวเดียวกัน
เป็นเหตุให้ยังไม่ถึงคิวหมอเกศ ที่เชื่อว่า มีคนรอลุ้นอยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งอยากให้โดน แต่อีกส่วนหนึ่งอยากให้รอด ขึ้นอยู่กับมุมมองและเหตุผลของแต่ละคน แต่สำหรับ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” ทนายคนดังที่เป็นหนึ่งในนักร้องเรียนแถวหน้าของไทย กลับให้ข้อมูลในอีกด้านหนึ่ง
“ทนายอั๋น” หรือ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร อ้างว่าแท้จริงแล้ว เพราะมีสายโทรศัพท์จากใครไม่ยอมบอก โทรไป กกต. แต่ไม่ใช่เพื่อเคลียร์เรื่องหมอเกศ แต่กลับบอกอ้างว่าต้องเลื่อนไปก่อน เพราะลำดับที่ 11 และ 12 ยังไม่เซ็นใบลาออกให้
ซึ่งน่าจะหมายถึง สว.สำรองในกลุ่ม 19 กลุ่มเดียวกับที่หมอเกศสมัคร คือกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ และอาชีพอิสระ หรืออื่น ๆ ที่จะเลื่อนขึ้นมาแทนที่ แต่ยังไม่ยอมเซ็นใบลาออกหลีกทางให้คนที่จ่อคิวถัดไป กกต.จึงไม่รีบพิจารณา
ทำให้เกิดเป็นนัยที่ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากมีความพยายามจะรักษาโควตา สว.ตัวนี้ไว้ ในกรณีที่หมอเกษถูกเชือดขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 77(4) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561
ผู้ใดกระทำการหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนน หรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด
จึงต้องมีการเจรจาตกลงกับว่าที่สว.ที่จ่อคิวจะขึ้นมาแทนที่เสียก่อน
สำหรับคนที่เป็นตัวสำรองลำดับแรก กลุ่ม 19 คือนายณัชญ์พงศ์ วงศ์มุลาลี อายุ 56 ปี ประกอบอาชีพอาชีพค้าขาย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายระดับประเทศ แต่ได้เสียงโหวสนับสนุน 19 คะแนนเท่ากับคนอื่นรวม 3 คน ต้องจับสลากจึงร่วงในรอบนี้ แต่เมื่อเกิดกรณีร้องเรียนคุณสมบัติหมอเกศ นายณัชญ์พงศ์ ออกโรงยืนยันผ่านสื่อว่า สนใจและพร้อมจะเข้าทำหน้าที่ สว.แทน ยืนยันไม่มีค่าย ไม่มีสี ไม่มีใครส่งเข้าประกวด
ขณะที่ในมุมมองทนายอั๋น ที่ทั้งจุดเทียนส่องทาง ร่ายบทกวี และหอบเอากล้วยที่เขาอ้างว่าเป็นสัญลักษณ์ของทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปฝากกกต.ด้วย และตั้งปุจฉาว่า แท้จริงแล้ว การทำงานของ กกต.รับใช้ประชาชน หรือรับใช้คนที่อยู่เบื้องหลัง สว.กันแน่
จึงกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นหนึ่งใหม่ที่น่าสนใจ นอกเหนือจากหมอเกศจะรอดหรือไม่รอด เพราะ การเลือก สว.หนนี้ ใช้วิธีการเลือกทั้งในกลุ่มและเลือกไขว้ต่างกลุ่มเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลือก สว.ของไทย นำไปสู่ประเด็นข้อกังขา ถึงเบื้องหลังและวิธีการจัดตั้งผู้สมัคร สว.อย่างเป็นระบบและหวังผลของบางพรรคการเมือง จนสามารถนำพาผู้สมัครในเครือข่ายค่ายสีเดียวกัน ผงาดไปนั่งเป็นสว.ในวุฒิสภาได้มากกว่า 140-150 คน
จนเป็นที่มาของคำถามจากบรรดาผู้สมัคร สว.ด้วยกัน หรือแม้แต่นักสังเกตการณ์ทางการเมืองที่ฟันธงว่า เป็นการฮั้วเลือก สว.ที่แยบยล และได้ผลเกินคาด ทำให้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองทางการเมืองและผลประโยชน์เหนือคนหรือพรรคการเมืองอื่น
ทนายอั๋น นอกจากเป็นหนึ่งในผู้สงสัยเรื่องนี้แล้ว ยังเป็นคนยื่นเรื่องร้องต่อ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็น สว.ของ พญ.เกศกมล ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 โดยเห็นว่า การสมัคร สว.ของหมอเกศ น่าจะผิดกฎหมาย ตามคำร้อง มาตรา 77(4)
และหยิบยกเอาเรื่องปริญญาบัตรจำลองของมหาวิทยาลัย California University ที่ พญ.เกศกมล อ้างถึง และนำไปแสดงกับสื่อ รวมทั้งปรากฎในใบ สว.3 เพราะเป็นปริญญาที่เป็นข้อสงสัยของคนไทยทั้งประเทศ และหน่วยงานราชการไทยไม่ให้การรับรอง เช่นเดียวกับในสหรัฐที่ไม่ได้ “ด้อยค่า” ปริญญาบัตรใบนี้เลย
ทั้งหมดเป็นผลจากการแสดงปริญญาบัตร วุฒิบัตร และบัตรเกียรติคุณมากมายของหมอเกศ ที่ยื่นแสดงประกอบการยื่นสมัคร สว. และยังนำไปใช้ประกอบในโปรไฟล์แนะนำตัว รวมทั้ง ยืนยันว่า เข้าศึกษาและได้รับมาจริง ไม่ว่าจะเป็นปริญญาโท ปริญญาเอก ได้ด็อกเตอร์จาก California University
เป็นรองศาสตราจารย์ หรือแม้แต่ศาสตราจารย์ อ้างจบการศึกษาและเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง แต่ต่อมาได้รับการปฏิเสธจากมหาวิทยาลัยที่ถูกอ้างถึง
รวมกระทั่งภาพถ่ายในชุดครุยปริญญา หน้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ยังถูกขุดว่า แท้จริงแล้ว เป็นชุดครุยรับปริญญาของมหาวิทยาลัยในประเทศ แต่นำไปสวมเพื่อถ่ายภาพนอกรั้วมหาวิทยาลัยที่อ้าง
ยังมีนักวิชาการบางคน โพสต์ตั้งข้อสังเกต ไล่ไทม์ไลน์การศึกษาและตำแหน่งต่าง ๆ ที่ได้รับมา จาก พญ.เกศกมล กลายมาเป็น ศ.ดร.พญ.เกศกมล ภายในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ถือว่า อเมซซิ่งมาก ๆ
ยังไม่นับถูกปฏิเสธ ไม่มีการรับรองจากกรรมการแพทยสภา กรณีอ้างว่าเป็นหมอเชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม 2525 มาตรา 28 ที่ห้ามไม่ให้ใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่า ตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญ ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่าง ๆ
ความจริงหมอเกศเพิ่งได้แสดงวิสัยทัศน์ในฐานะ สว. โดยแนะให้ตั้งองค์กรกำกับ ควบคุมเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ที่เป็นเท็จ และไม่สร้างสรรค์ ด้วยการตั้งหน้าตั้งตาอ่านสคริปต์อย่างจริงจัง เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 ซึ่งด้านหนึ่ง อาจสะท้อนความตั้งใจขอทำหน้าที่ สว.ดังที่พยายามอ้างถึงมาตลอด
เพียงแต่วิธีการได้มาซึ่ง สว. กระทั่งได้เป็น สว.ที่ได้รับคะแนนโหวตหนุนมากที่สุด 79 คะแนน สูงกว่าสว.ทุกคน อาจมาจากการปรุงแต่ง ใส่สีให้ดูโดดเด่นเกินความจำเป็นแบบคนหิวแสง
สุดท้ายแทนที่จะเป็นคุณ กลับกลายเป็นโทษ หากสุดท้าย ไม่ได้ไปต่อบนเส้นทาง สว.จริง ๆ
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : อ้างเป็น จนท.ปกครอง เรียกเงินคนขับรถขนส่งสินค้า 2.5 แสนบาท
“พริษฐ์” จ่อพบ กกต.28 พ.ย.หารือทบทวนวันเลือกตั้ง อบจ.
งานวัดภูเขาทอง 2567 สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ร่วมประเพณีห่มผ้าแดง