เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2568 สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์อย่างสงบด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา หลังประชวรด้วย "โรคนิวโมเนีย" ที่ปอดทั้ง 2 ข้างจากการติดเชื้อรุนแรง สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเข้ารับการรักษาที่ รพ.เจเมลลี ในกรุงโรมตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2568 และประทับรักษานาน 38 วัน พระอาการดีขึ้นชั่วคราวก่อนสิ้นพระชนม์เพียงวันเดียวหลังเสด็จปรากฏพระองค์ในพิธีอีสเตอร์
"โรคนิวโมเนีย หรือ ปอดอักเสบ" เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยทั่วโลก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว การสิ้นพระชนม์ของผู้นำคริสตจักรคาทอลิกครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความรุนแรงของโรคนี้

รู้จัก "โรคนิวโมเนีย"
นิวโมเนียเกิดจากการติดเชื้อในถุงลมปอด ทำให้เกิดการอักเสบและสะสมของหนองหรือของเหลว สาเหตุหลักแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
- เชื้อแบคทีเรีย เช่น Streptococcus pneumoniae ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในผู้ใหญ่
- เชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ โควิด-19 หรือไวรัส RSV
- เชื้อรา เช่น Pneumocystis jirovecii ซึ่งพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
การติดเชื้ออาจเกิดจากการสูดหายใจละอองฝอยที่มีเชื้อโรค การสัมผัสพื้นผิวปนเปื้อน หรือการลุกลามของการติดเชื้อจากทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัดหรือไซนัสอักเสบ นอกจากนี้ การสำลักอาหารหรือน้ำลาย (Aspiration Pneumonia) ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีปัญหาการกลืน ดังเช่นสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ทรงมีประวัติสุขภาพเกี่ยวกับปอดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย ปี 2567 พบผู้ป่วยนิวโมเนียประมาณ 150,000-200,000 คน/ปี โดยกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็กเป็นกลุ่มที่พบมากที่สุด อัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุอยู่ที่ร้อยละ 10-15 โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว
การศึกษาในจังหวัดสระแก้ว ปี 2545-2548 รายงานอุบัติการณ์นิวโมเนียที่ยืนยันด้วยภาพรังสีในพื้นที่ชนบทที่ 1,000-2,000 คนต่อประชากร 100,000 คน การฉีดวัคซีนนิวโมเนียในประเทศไทยครอบคลุมเพียงร้อยละ 20-30 ของกลุ่มเสี่ยง ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก ข้อมูลจากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ปี 2565 ระบุว่าเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ เช่น Pseudomonas aeruginosa เป็นสาเหตุหลักในผู้ป่วยนิวโมเนียที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล

อาการ "นิวโมเนีย"
อาการของนิวโมเนียขึ้นอยู่กับสาเหตุ อายุ และ สุขภาพของผู้ป่วย อาการทั่วไปรวมถึง ไข้สูง (อาจถึง 40.5 องศาเซลเซียส) หนาวสั่น ไอมีเสมหะ (อาจมีสีเหลือง เขียว หรือปนเลือด) หายใจลำบาก เจ็บหน้าอกเมื่อหายใจหรือไอ อ่อนเพลีย และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ในผู้สูงอายุ เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส อาจพบอาการที่ไม่จำเพาะ เช่น สับสน ตัวเย็น หรืออ่อนแรง ซึ่งทำให้วินิจฉัยได้ยากขึ้น อาการรุนแรง เช่น ผิวหนังหรือริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน (Cyanosis) หรือหายใจเร็วผิดปกติ เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที ในกรณีของสมเด็จพระสันตะปาปา พระอาการหายใจลำบากและการติดเชื้อหลายชนิดบ่งชี้ถึงความรุนแรงของโรค

การป้องกัน-รักษาร่างกายจาก "นิวโมเนีย"
การป้องกันนิวโมเนียเริ่มจากการเสริมสร้างสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ และเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากควันบุหรี่ทำลายปอดและเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อ
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง วัคซีนนิวโมเนีย ป้องกันการติดเชื้อจาก Streptococcus pneumoniae สาเหตุหลักของนิวโมเนียจากแบคทีเรีย วัคซีนไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ช่วยลดความเสี่ยงจากไวรัสที่อาจนำไปสู่ปอดอักเสบ
การล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากในที่แออัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่มีอาการทางเดินหายใจเป็นสิ่งสำคัญ การจัดการโรคประจำตัว เช่น เบาหวานหรือโรคปอดเรื้อรัง ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก
ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนิวโมเนีย จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สำหรับนิวโมเนียจากแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Macrolides หรือ Fluoroquinolones โดยต้องรับประทานยาครบตามกำหนดเพื่อป้องกันการดื้อยา หากเป็นไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจใช้ยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir การพักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ และใช้เครื่องทำความชื้นช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
ในกรณีรุนแรง เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้ป่วยอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือรักษาในหอผู้ป่วยหนัก หลังออกจากโรงพยาบาล ควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงควันบุหรี่หรือมลพิษ และอาจต้องกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของปอด การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

ข้อควรปฏิบัติ กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อนิวโมเนีย
ผู้ที่มีอาการไข้สูงเกิน 2-3 วัน ไอรุนแรง หายใจลำบาก หรือเจ็บหน้าอก ควรรีบพบแพทย์ทันที การละเลยอาการอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือดหรือปอดเสียหายถาวร
ควันบุหรี่ มลพิษทางอากาศ และ การสัมผัสสารเคมี เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ควรระวังอาการกำเริบ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงนิวโมเนีย การไม่รักษาหรือรักษาล่าช้าอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น ดังที่เห็นในกรณีของสมเด็จพระสันตะปาปาที่การติดเชื้อลุกลามอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับวัคซีนและวางแผนป้องกัน
สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่อโรคนิวโมเนีย
- ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ มะเร็ง หรือ HIV
- ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์หนัก
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่ได้รับยากดภูมิหรือเคมีบำบัด มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรง
- ผู้ที่อาศัยในสถานดูแลระยะยาวหรือมีปัญหาการกลืนก็มีความเสี่ยงต่อนิวโมเนียจากการสำลัก
นิวโมเนียเป็นโรคที่ร้ายแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การหายใจล้มเหลว การสะสมของเหลวรอบปอด การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือฝีในปอด

อัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุที่ป่วยรุนแรงอาจสูงถึงร้อยละ 20-30 หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ในกรณีของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส การติดเชื้อหลายชนิดและภาวะปอดอักเสบทั้ง 2 ข้างทำให้พระอาการวิกฤต นิวโมเนียอาจทำให้ปอดเสียหายถาวร ส่งผลต่อการหายใจและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ผู้ป่วยที่หายแล้วอาจมีความเสี่ยงต่อโรคปอดเรื้อรังเพิ่มขึ้น
ส่วนข้อกังวลใจว่า หากป่วยติดเชื้อแล้ว จะรักษาหายขาดหรือไม่ ผู้ป่วยที่เป็นโรคนิวโมเนียสามารถรักษาหายได้หากวินิจฉัยและรักษาทันท่วงที ผู้ที่มีสุขภาพดีมักหายภายใน 1-3 สัปดาห์ ด้วยยาปฏิชีวนะหรือการรักษาตามอาการ
อย่างไรก็ตาม ในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว การฟื้นตัวอาจใช้เวลานานและมีความเสี่ยงต่อการกำเริบหรือเสียชีวิตสูง การศึกษาในสหรัฐฯ พบว่าร้อยละ 9 ของผู้ป่วยนิวโมเนียที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลมีอาการกำเริบภายใน 5 ปี การดูแลต่อเนื่องหลังการรักษา เช่น การตรวจติดตามและการฟื้นฟูปอด เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพดี

แหล่งที่มาข้อมูล : สำนักวาติกัน, Reuters, กระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย ข้อมูลนิวโมเนีย ปี 2567, Cleveland Clinic : Pneumonia Causes, Symptoms, Treatment, Nature Reviews Disease Primers : Pneumonia, American Lung Association Pneumonia Treatment and Recovery, Healthline : Elderly Pneumonia, BMC Public Health : Enhanced Surveillance for Severe Pneumonia, Thailand
อ่านข่าวอื่น :
รายนามสมเด็จพระสันตะปาปา 10 พระองค์ล่าสุด แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก
ใครจะเป็น "โป๊ป" องค์ต่อไป ? 13 คาร์ดินัล ผู้นำคนใหม่แห่งวาติกัน