วันนี้ (6 พ.ย.2567) เวลา 01.13 น. เฟซบุ๊ก "โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย Elephant Hospital, TECC" แจ้งว่า ลูกช้าง "พังกันยา" ตายแล้วเมื่อเวลา 23.31 น. หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้าง เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นโรคไวรัสที่มีความอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตในกลุ่มช้างอายุน้อยหรือลูกช้าง
ก่อนหน้านี้ ทีมสัตวแพทย์ได้นำเลือดของ "พังแม่ขอด" ที่อยู่ในสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ จ.ลำปาง เติมให้กับลูกช้างกันยา ควบคู่กับการให้ยาต้านไวรัส
ลูกช้างกันยามีอาการซึม กินได้น้อยลง ไม่มีไข้ อึเป็นเมือกค่อนข้างเหลวและมีกลิ่นเหม็น ฉี่ได้ 1 ครั้ง และมีอาการของโรคเฮอร์ปีส์ไวรัสชัดขึ้น หน้าบวมมากขึ้นและพบจุดเลือดออกที่ลิ้น
ทีมสัตวแพทย์พิจารณาให้เพิ่มการรักษาโดยใช้สเต็มเซลล์ ซึ่งเป็นการรักษาทางเลือกเพิ่มเติมจากการรักษาหลัก โดยมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบทั่วร่างกาย ต้านไวรัส รักษาสมดุลและเสริมสร้างเซลล์ใหม่ของหลอดเลือด ซึ่งเป็นอวัยวะหลักที่เกิดความเสียหายในโรคนี้
ขณะที่เฟซบุ๊ก "ร่มแดนช้าง Tusker Shelter" ระบุว่า ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว พร้อมขอบคุณสถาบันคชบาลแห่งชาติที่ให้การดูแลและให้คำแนะนำในการอนุบาลเลี้ยงดูช้างน้อยกันยา จนถึงวันที่ลูกช้างมีอาการป่วย ทางโรงพยาบาลช้างได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่
401 วันทุกนาทีที่มีแต่คนรัก #กันยา ลูกคือที่สุด
สำหรับพังกันยา เป็นลูกช้างป่าพลัดหลงโขลง ถูกพบบริเวณริมป่าใน อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เมื่อเดือน ก.ย.2566 ในสภาพอ่อนเพลียและมีบาดแผลถลอก เจ้าหน้าที่จึงนำมาดูแลอย่างใกล้ชิด
ต่อมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ส่งพังกันยาไปอนุบาลดูแลที่ปางช้างภัทร อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยมีสัตวแพทย์ประจำปางช้าง สัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) และทีมงานเจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ดูแลร่วมกันเพื่อฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ โดยมีแม่ช้างรับคอยดูแลและป้อนนมลูกช้างเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง
อ่านข่าว