วันนี้ (31 ต.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ฉบับที่ 1 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 2–5 พ.ย.นี้
เนื่องจากในช่วงวันที่ 2-5 พ.ย.นี้ บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2–4 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว
พายุฝนตกรุนแรง จากอิทธิพลไต้ฝุ่นกองเร็ยที่ไต้หวัน
พายุฝนตกรุนแรง จากอิทธิพลไต้ฝุ่นกองเร็ยที่ไต้หวัน
สำหรับภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ไต้ฝุ่นกองเร็ยถล่มไต้หวัน พบป้ายโฆษณา ต้นไม้ เสาไฟฟ้าหักโค่น
ไต้ฝุ่นกองเร็ยถล่มไต้หวัน พบป้ายโฆษณา ต้นไม้ เสาไฟฟ้าหักโค่น
กองเร็ยถล่มไต้หวัน-ตาย 1 เจ็บ 73 คน
ส่วนเส้นทางพายุไต้ฝุ่น "กองเร็ย" ยังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือไปคาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวันในวันนี้ เตือนผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไต้หวัน ช่วงวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ ตรวจสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง พายุนี้ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พายุกองเร็ย พัดเข้าไต้หวันทางตะวันออกด้วยความเร็วลมสูงสุด 184 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงบ่ายวันนี้ (31 ต.ค.) ผลกระทบต่อไต้หวันจะรุนแรงมากในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และลมกระโชกแรง
โรงเรียนและสถานประกอบการประกาศหยุด และให้ประชนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
โรงเรียนและสถานประกอบการประกาศหยุด และให้ประชนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ทำให้สถานประกอบการ และโรงเรียนทั่วไต้หวันถูกระงับการทำงาน เพื่อให้ประชาชนรับมือกับพายุ เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนจากต้นไม้ที่ล้มทับ และบาดเจ็บ 73 คนจากอิทธิพลของพายุ และมีป้ายโฆษณาพังถล่มลงมา โดยบริเวณชายฝั่งตะวันออกและภาคเหนือได้รับผลกระทบหนักที่สุด