วันนี้ (30 ต.ค.2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอี ร่วมกับสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการระงับบัญชีม้า ตัดเส้นทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีสถิติการระงับบัญชีม้าจนถึงต.ค.นี้ รวมกว่า 1,100,000 บัญชี พร้อมกับการขยายผลดำเนินการจับกุมเจ้าของบัญชีม้าอย่างเข้มข้น
นายประเสริฐ กล่าวว่า สถิติผลการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้าที่เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 พบว่าในช่วง 1 ปี มีจำนวนรวม 2,897 คน เฉพาะในเดือนก.ย.นี้ 497 คน
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมาอาจเห็นว่าการขายบัญชีธนาคาร เป็นวิธีการที่ได้เงินมาง่าย และไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากบัญชีธนาคารถูกนำไปใช้โดยกลุ่มมิจฉาชีพ ทำให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ขึ้น เพื่อกำหนดมาตรการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
อ่านข่าว ชงเร่งแก้ กม.นำเงินจากบัญชีม้า 1,400 ล้านบาทเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
โดยได้กำหนดโทษของการยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ หรือที่เรียกว่า บัญชีม้า จะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังอาจถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีนั้นไปใช้ ในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด และอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เสียหาย
ดังนั้น ขอเตือนประชาชนว่า การขายบัญชีธนาคารไม่ว่าจะในรูปแบบใด มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ทั้งนี้หากหลงเชื่อขายบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว ให้รีบติด ต่อกับธนาคาร เพื่อขอปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้มีรายชื่ออยู่ในลิสต์ว่าขายบัญชี และถูกระงับทุกบัญชีธนาคารของทุกธนาคารที่มี รวมทั้งไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีไปใช้ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด
อ่านข่าว
คลังเล็งแก้กฎหมายนิยามความผิด "แม่ข่าย" แชร์ลูกโซ่
“ทองคำ” เช้านี้ บวก 400 “ทองคำแท่ง” ขายออกบาทละ 44,350
เตือนภัย "แก๊งบัญชีม้า" หลอกให้ช่วยกดเงินตู้ ATM หาคนรับผิดแทน