วันนี้ (21 ต.ค.2567) นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้เข้าตรวจสอบว่าศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ของพระว.วชิรเมธี มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยตุงหรือไม่
โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบวันนี้ โดยยอมรับว่าอาจจะยังไม่สามารถสรุปได้ทันทีว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ เนื่องจากต้องเข้าสำรวจหลักหมุดทุกจุดอย่างละเอียด วัดพิกัด และนำมาเทียบกับแผนที่การขอใช้ประโยชน์ว่าใช้พื้นที่ตรงกับที่ใช้ประโยชน์หรือมากเกินหรือไม่ แต่จะทำให้เร็วที่สุด
ขณะนี้ต้องเข้าไปเดินสำรวจแนวเขต หลักหมุดทุกจุดอย่างละเอียด และรังวัดที่ดินว่ามีการใช้ประโยชน์เกินที่ขออนุญาตหรือไม่ โดยมีพื้นที่เป้าหมายตามผังที่ขออนุญาตไว้จำนวน 113 ไร่และอีก 14 ไร่
อ่านข่าว "กรมป่าไม้" สั่งรังวัดไร่เชิญตะวัน "ว.วชิรเมธี" ส่อรุกป่าดอยตุง
นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งวันแรก แม้จะเจอเผือกร้อนแต่ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบ ไม่หนักใจและพร้อมให้คำตอบกับสังคม
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าไร่เชิญตะวันมีการขออนุญาตใช้พื้นที่รวม 143 ไร่แบ่งเป็น 2 ส่วนในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย ต.ห้วยสัก จ.เชียงราย รวม 3 แปลงคือ 1 แปลงขออนุญาต โดยมูลนิธิวิมุตตยาลัย เนื้อที่ 113 ไร่ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 2 แปลงเนื้อที่ 14 ไร่และ 11 ไร่ ซึ่งมีแผนที่แนวเขต แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ และขึ้นรูปแปลงชัด เจน และล้อมด้วยแปลงที่ดินที่อนุญาตให้ประชาชนตามนโยบายแนวเขตที่ดินทำกิน (คทช.)
จากที่ได้รับรายงานพบว่าการขออนุญาตใช้พื้นที่ 113 ไร่ และ 14 กับ 11 ไร่ โดยต้องกราวด์เช็กจากแผนที่ทั้ง 3 แปลงในพื้นที่จริง หากพบใช้เกินและเจตนาบุรุกก็จะดำเนินการ ทางวัดนำตรวจสอบแนวเขตที่วัดด้วย
รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า คาดว่าในการกราวด์เช็กต้องใช้เวลา 3-4 วันในการตรวจสอบข้อมูล หากตรวจสอบเชิงพื้นที่พบว่าอยู่หรือไม่อยู่ในเขตก็จะดูถึงพฤติกรรม และเจตนาของทั้งสำนักพระพุทธศาสนาและวัด ซึ่งถ้ายังคงพื้นที่ป่า ก็อาจจะยังไม่เกิดความผิดในการใช้พื้นที่เกิน แต่หากเปลี่ยนแปลงที่ดิน ก็จะเข้าข่ายความผิด
กรมป่าไม้ เข้าพื้นที่ไร่่เชิญตะวันเพื่อตรียมตรวจสอบแนวเขตที่ดิน
กมธ.จี้กรมป่าไม้คลายปมรุกป่า
ส่วนนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบกับกรณีไร่เชิญตะวัน กับกรณีวัดพระใหญ่ จ.ภูเก็ต ที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานาคเกิดจนดินถล่มมีคนตาย มีลักษณะเดียวกันคือขอใช้ประโยชน์ในด้านพระพุทธศาสนาแต่กลับใช้พื้นที่เกินจากที่ขอใช้ประโยชน์
เรื่องนี้มีแผนที่ประกอบคำขอหากขอเกิน ต้องแจ้งความดำเนินคดี ที่สำคัญกรมป่าไม้ และสำนักพุทธศาสนา ต้องเร่งตรวจสอบข้อมูลและเสนอข้อเท็จจริงกับสังคม
อ่านข่าว
ไม่น่ารัก! แจ้งความเอาผิดนักท่องเที่ยวจีนยิงหนังสติ๊กในสวนสัตว์
แจงปม "บอสพอล ดิไอคอน" บริจาคเงินทำบุญวัด "ขอนแก่น"