วันนี้ (16 ต.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายประชาชนเพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศและหยุดคาร์บอนเครดิตจัดกิจกรรม “ยุติภาวะโลกเดือดที่ต้นเหตุ System Change Not Climate Crisis” โดยจะมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อจะยื่นหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แต่นายเฉลิมชัย ติดประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาลจึงมอบหมายให้นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี รองปลัดทส. และนายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับหนังสือแทน
โดยกลุ่มนักกิจกรรมกรีนพีซ ประเทศไทยได้ร่วมกันกางป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “People before profit หยุดฟอกเขียวยักษ์ใหญ่คาร์บอน” ที่ด้านอาคาร 20 20 ชั้นของทส.โดยเรียกร้องรัฐบาลต้อง ยุติการเอื้อให้อุตสาหกรรมผู้ก่อมลพิษฟอกเขียว และต้องแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ต้นเหตุและเป็นธรรม
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีการขออนุญาตและเป็นการลักลอบขึ้นไปโดยพลการ จึงแจ้งให้ตำรวจ สน.บางซื่อ ให้นำตัวผู้บุกรุกทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
เรียกร้องยุติเอื้อฟอกเขียวอุตฯ คาร์บอน
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว เครือข่ายประชาชนเพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศและหยุดคาร์บอนเครดิต รวมตัวเรียกร้อง Climate Justice ก่อนรัฐบาลไทยไปเจรจา ก่อนการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพสมัยที่ 16(CBD COP16) ณ ประเทศโคลอมเบีย
และการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 29 (COP29) ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 11–22 พ.ย.นี้ ได้มีการขับเคลื่อนต่อจาก COP 28 ที่จะหยิบยกประเด็นเจรจาที่สำคัญ ในการกำหนดเป้าหมายทางการเงินใหม่ (NCQG) ภายหลังปี 2568
ขณะที่ข้อเรียกร้องที่ทางเครือข่ายฯ เสนอให้ผลักดันการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ให้แล้วเสร็จในรัฐบาลนี้ โดยจะต้องยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มีนโยบายป่าไม้แห่งชาติ แผนพลังงาน แผนพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ เขตเศรษฐกิจพิเศษและนโยบายต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นการส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างแท้จริง
การสร้างบทบาทในอาเซียนของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีความเสี่ยงต่อโลกเดือดสูงและประชาคมโลกในการเรียกร้องให้มีการชดใช้หนี้นิเวศ และความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้น
การหยุดกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทุกฉบับ ที่สนับสนุนกลไกตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอน ที่เป็นการเอื้อต่อนายทุน
รวมทั้งเสนอให้มีการยุบเลิกองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ที่มีภารกิจในการส่งเสริมระบบคาร์บอนเครดิต และสร้างความชอบธรรมให้กับอุตสาหกรรมปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์และภารกิจของ ทส.ยกเลิกสัมปทานที่ให้บริษัทเอกชนเข้า ไปทำโครงการคาร์บอนเครดิต และไบโอเครดิตทั้งหมด
ไทยร่วมถกเวที COP29 ระหว่าง 11–22 พ.ย.นี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 2/2567 ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดีอี เป็นประธาน เพื่อพิจารณากรอบท่าทีเจรจาของไทย สำหรับการเข้าร่วมประชุม COP29
โดยที่ประชุม ฯมีมติเห็นชอบวาระการพิจารณาที่สำคัญ ได้แก่
- ร่างแถลงการณ์ ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับการประชุม COP29
- ร่างกรอบท่าทีเจรจาของไทยในการประชุมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจำปี พ.ศ.2567-2568
- ร่างองค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคี COP29 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงบากู อาเซอร์ไบจาน
- ตลอดจนเห็นชอบในหลักการต่อการรับรองปฏิญญาว่าด้วยสภาพภูมิอากาศและสุขภาพ (COP28 Declaration on Climate and Health)
นอกจากนี้ ยังได้รับทราบผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ในครั้งที่ผ่านมา
อ่านข่าว
