อิทธิพลทรงพลัง "P Diddy - อีซึงฮยอน" มุมด้านมืด ในโลกมายา

อาชญากรรม
7 ต.ค. 67
12:06
256
Logo Thai PBS
อิทธิพลทรงพลัง "P Diddy - อีซึงฮยอน" มุมด้านมืด ในโลกมายา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ฌอน จอห์น คอมบ์ส หรือ P Diddy แรปเปอร์ และ CEO ผู้โด่งดัง ยังคงถูกพูดถึงและถูกขุดประวัติในอดีตแบบรายวัน แม้จะถูกส่งคุมขังในเรือนไปนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ขณะที่ข้อกล่าวหาที่เขาถูกฟ้องร้องในครั้งนี้ มีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต และแน่นอนเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

Every step I take
Every move I make
Every single day, every time I pray
I'll be missing you
Thinkin' of the day
When you went away
What a life to take, what a bond to break
I'll be missing you (I miss you, B.I.G.)

ท่อนฮุค จากเพลง "I’ll be Missing You" ของ ฌอน จอห์น คอมบ์ส หรือ P Diddy แรปเปอร์ ผู้โด่งดังถูกปล่อยออกมาในปี 1997 เพื่อรำลึกถึง Notorious B.I.G. ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและศิลปินในสังกัดค่าย Bad Boy Entertainment ที่ P Diddy ก่อตั้งขึ้นในปี 1993

ความสำเร็จของเพลงนี้ มากกว่าการระลึกถึงเพื่อนผู้ล่วงลับ แต่ยังขึ้นไปอยู่ในอันดับต้น ๆ ของชาร์ต Billboard Hot 100 ถึง 11 สัปดาห์ ในปีเดียวกัน P Diddy ปล่อยอัลบัม "No Way Out" และสามารถทำยอดขาย LP หรือ แผ่นเสียงได้สูงที่สุดในปี 1997 โดยมียอดขายในสหรัฐฯ รวม 3.4 ล้านแผ่น

ยื่งกว่านั้น คือ  เพลง "I’ll Be Missing You" และอัลบั้ม "No Way Out" ยังคว้ารางวัล GRAMMY ในสาขา 'Best Rap Performance by a Duo or Group' และ 'Best Rap Album' อีกด้วย นอกจากนี้ Guinness World Record ยังบันทึกให้ P Diddy เป็น "Most Successful Rap Producer" ในปี 1997 ด้วย

P Diddy เข้าสู่เส้นทางสายนี้อย่างเป็นทางการ ด้วยการฝึกงานที่ Uptown Records ในนิวยอร์กในปี 1990 ด้วยพรสวรรค์ทำให้เขาเติบโตในสายงานกระทั่งขึ้นเป็น ผอ.ด้านพรสวรรค์ที่ Uptown Records ก่อนจะออกมาก่อตั้ง Bad Boy Entertainment

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นหลังจาก P Diddy ก่อตั้งค่ายเพลงได้ราว 4 ปีเท่านั้น ซึ่งนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นคนดังที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุคเรื่อยมา การอยู่ในวงการมายาวนานกว่า 30 ปี P Diddy เขาเป็นทั้งแรปเปอร์, โปรดิวเซอร์ สร้างสรรค์ผลงานเพลง สร้างแรปเปอร์ ชื่อดัง มานับไม่ถ้วน หลายคนกลายเป็นผู้โด่งดัง ร่ำรวย มาจนถึงตอนนี้ และยิ่งส่งผลดีต่อความยิ่งใหญ่ของ P Diddy และเขาก็การขยายธุรกิจไปยังวงการแฟชั่น ฯลฯ ทำให้เขามีเครือข่าย มีคอนเนกชันกว้างขวางแทบทุกวงการ ซึ่งล้วนเป็นคนดังและร่ำรวย

ความยิ่งใหญ่ ร่ำรวย อาจไม่ใช่ปัญหา หากเขาไม่ถลำ ย่ามใจ ใช้อิทธิพลไปในทางที่ไม่ถูก ไม่ควร แม้จะรอดตัวมาได้หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ถูกโค่นลง ด้วยน้ำมือของ อดีตแฟนสาว ที่เคยคบหากันมาอย่างยาวนานถึง 11 ปี

Cassandra Ventura หรือ "แคสซี" ยื่นฟ้อง P Diddy ในเดือน พ.ย.2023 ด้วยข้อหาข่มขืน, บังคับค้าประเวณี และใช้ความรุนแรง แคสซี่ ระบุว่า "เป็นเวลานานถึง 11 ปีที่ติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ ถูก P Diddy บังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่จ้างมา โดย P Diddy รับบทเป็นผู้ชม ในครั้งที่ขอเลิก ยังถูกเขาทำร้ายและข่มขืนด้วย"

วันที่ 16 ก.ย.2567 P Diddy ผู้ยิ่งใหญ่ ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่สืบสวน ด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา ในแมนฮัตตัน

จับ P Diddy วันนี้ที่(เหยื่อ)รอคอย

Southern District of New York (SDNY) หรือ ศาลแขวงสหรัฐอเมริกาสำหรับเขตตอนใต้ของนิวยอร์ก ระบุข้อกล่าวหา P Diddy มี 3 ข้อหา ประกอบด้วย สมคบคิดกรรโชกทรัพย์, การค้าประเวณีโดยใช้กำลัง หลอกลวงหรือขู่เข็ญ และ การขนส่งเพื่อประกอบกิจการค้าประเวณี ซึ่งแน่นอนว่า P Diddy ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ขณะที่บทลงโทษของข้อหา การสมคบคิดกรรโชกทรัพย์ มีโทษจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต การค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีโดยใช้กำลัง ฉ้อโกง หรือการบังคับขู่เข็ญ มีโทษจำคุกขั้นต่ำบังคับ 15 ปี และโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดตลอดชีวิต ส่วนข้อหาการขนส่งเพื่อวัตถุประสงค์ในการค้าประเวณีมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

คำฟ้องระบุว่า P Diddy หรือ คอมส์ ทำร้าย คุกคาม และบังคับผู้หญิงและคนอื่น ๆ รอบตัวเขาให้สนองความต้องการทางเพศของเขา ปกป้องชื่อเสียงของเขา และปกปิดพฤติกรรมของเขา เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2008 เป็นอย่างน้อย

อีกทั้งยังใช้พนักงาน ทรัพยากร และอิทธิพลของเขาในอุตสาหกรรมดนตรี เพื่อสร้าง "องค์กรอาชญากรรมที่มีสมาชิกและผู้ร่วมงานเข้าไปเกี่ยวข้องและพยายามที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องในอาชญากรรมต่าง ๆ เช่น การค้าประเวณี การใช้แรงงานบังคับ การลักพาตัว การวางเพลิง การติดสินบน และการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม"

ภายหลังการจับกุม มีคนดังอีกหลายคน ในหลายวงการตบเท้าออกมายื่นฟ้อง P Diddy และทุกคน ต่างยื่นฟ้องในคดีที่มีลักษณะคล้ายกัน คือ คดีเกี่ยวกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศ การถูกล่อลวง หรือ บังคับให้ใช้ยาเสพติดและถูกทำร้ายร่างกายไปจนถึงการถูกข่มขู่ คุมคาม และนี่ก็เป็นพฤติกรรมที่ศาลฯ กังวล หากให้ P Diddy ได้ประกันตัว

ทนายความของ P Diddy ยื่นประกันถึง 2 ครั้ง แต่ศาลฯ ไม่อนุญาต และส่งตัว P Diddy คุมขังที่เรือนจำเมโทรโพลิแทน ในบรู๊กลิน ซึ่งเป็นสถานกักขังของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาใน ย่าน Sunset Park ของ Brooklyn นครนิวยอร์ก

"Freak Offs" ปาร์ตี้ลับ วังวนอาชญากรรม

ผู้ที่ออกมากล่าวอ้างว่า เป็นผู้ถูกกระทำด้วยการล่วงละเมิด ล้วนมีชื่อของปาร์ตี้ "Freak Offs" เข้ามาเกี่ยวข้อง

แรกเริ่มปาร์ตี้ของ P Diddy ถูกจัดขึ้นด้วยชื่อเรียกว่า "White Party" เป็นปาร์ตี้ชุดขาว ที่คนดังแทบทุกวงการปรารถนาเข้าร่วม เพราะมากกว่าการพบปะ สังสรรค์ของเหล่าคนดัง แต่เป็นเสมือนการยกระดับความดังของตัวเองไปด้วยในตัว และคงจะดีกว่านี้ถ้าปาร์ตี้จบลงแค่นั้น ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่

P Diddy มีความชื่นชอบในการจัดปาร์ตี้มาตั้งแต่สมัยเรียมหาวิทยาลัย จากประสบการณ์ ทำให้เขามีไอเดียที่แตกต่าง เขาจัด ปาร์ตี้ลับ ในชื่อ "Freak Offs" ขึ้น ซึ่งนี่คือ ปัญหา คือ วังวนของการก่ออาชญากรรมทางเพศและยาเสพติด

ในคำฟ้อง มีการระบุ กล่าวหาว่า P Diddy ชักจูงหญิงและชาย ขายบริการทางเพศ ให้แสดงทางเพศโดยใช้ยาเสพติด ซึ่งเรียกกันว่า "Freak Offs"

ตามเอกสารคำฟ้องคำว่า Freak Offs ถูกอ้างถึงประมาณ 16 ครั้ง โดยถูกอธิบายว่าเป็น "การแสดงทางเพศที่ซับซ้อนและสร้างขึ้น ซึ่ง P Diddy เป็นผู้จัดเตรียม กำกับ สำเร็จความใคร่ และมักบันทึกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างนั้น"

อัยการกล่าวหาว่า เหยื่อได้รับสารควบคุมในระหว่างงานซึ่งบางครั้งยาวนานหลายวันเพื่อให้พวกเขา "เชื่อฟังและปฏิบัติตาม" และ P Diddy ได้ทำให้พวกเขาถูก "ล่วงละเมิดทางร่างกาย อารมณ์ และวาจา" เพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วม

รายงานระบุเพิ่มเติมอีก ว่า P Diddy และเหยื่อของเขา เหนื่อยล้ามาก หลังจากทำกิจกรรม ซึ่งบางครั้งกินเวลานานหลายวัน จนพวกเขา "มักจะได้รับสารน้ำทางเส้นเลือดเพื่อฟื้นตัวจากการออกกำลังกายที่หนักหน่วงและการใช้ยา" นอกจากนี้ รายงานยังระบุ อีกว่า P Diddy และสมาชิกในธุรกิจของเขา "มีส่วนร่วมในการกระทำรุนแรง คุกคาม คุกคามทางการเงินและชื่อเสียง

ซึงรี - Burning Sun อิทธิพล "คนดัง"

Burning Sun ไนท์คลับ ที่โฆษณาตัวเองว่า เป็นคลับที่ดีที่สุดในเกาหลีใต้ เปิดตัวในปี 2018 และได้รับความนิยมอย่างมาก คนดังส่วนใหญ่ เรียกที่นี่ว่า คลับของซึงรี

ซึงรี หรือ อีซึงฮยอน อดีตสมาชิกวง BIGBANG มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Burning Sun ทั้งร่วมโปรโมต ใช้เป็นแหล่งพบปะ พูดคุยธุรกิจ และกลุ่มเพื่อนสนิทของซึงรี ซึ่งล้วนแต่เป็นไอดอลคนดัง ก็นิยมไปใช้บริการที่นี่ด้วย ในขณะที่ธุรกิจกำลังรุ่งโรจน์ ก็เกิดเหตุชกต่อยขึ้นที่หน้าร้านในช่วงเดือน ม.ค.2019 มีภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งชายที่ถูกทำร้ายคือลูกค้า เขาถูกการ์ดทำร้ายและหิ้วตัวออกจากร้าน หลังพยายามเข้าไปช่วยเหลือหญิงนักเที่ยวคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพมึนเมาและกำลังถูกล่วงละเมิด

เรื่องราวกลายเป็นจุดสนใจของสาธารณะชน เพราะคนที่พยายามเข้าช่วยเหลือผู้หญิง กลับถูกตำรวจดำเนินคดีถึง 7 ข้อหา ทำให้เขาร้องเรียนโดยตรงไปยัง Blue House หรือ ทำเนียบรัฐบาลของเกาหลีใต้ และจากนั้นการสืบสวนสอบสวน Burning Sun เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการและนี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิตซึงรีและคนใกล้ชิด รวมถึง Burning Sun

สำนักงานตำรวจนครบาลโซล หรือ SMPA เข้ารับผิดชอบการสืบสวนคดี โดยวางแนวทางสืบสวนเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ การใช้ยาเสพติด การจับกุมคิม (ลูกค้าที่ถูกทำร้าย) และความเกี่ยวข้องกับสถานีตำรวจท้องถิ่น ซึ่งสุดท้ายแล้ว คดีนี้ มีตำรวจหลายนายที่ถูกลงโทษ ด้วยการพยายามช่วยเหลือทางคดีแก่ Burning Sun และคนที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่ซึงรี ถูกสอบสวน ในฐานะ ผอ.Burning Sun ปรากฏว่า มีเบาะแส จากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แจ้งข้อมูลที่สร้างความตกตะลึงแก่สังคมเกาหลี โดยเฉพาะแฟนเพลง Kpop นั่นคือ ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ ของ จอง จุน ยอง ศิลปินร็อค ชื่อดัง

โดยเป็นข้อความและภาพ คลิป เกี่ยวกับการล่วงละเมิดหญิงสาว ซึ่งปรากฏในกลุ่มแชท KakaoTalk โดยสมาชิกเป็นศิลปินไอดอลชื่อดังทั้งหมด แม้ภาพจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2015-2016 ตำรวจก็ไม่ปล่อยผ่าน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนควบคู่ไปพร้อมกัน

แม้ว่า บางคนจะเพียงร่วมกลุ่มสนทนา รับรู้ถึงพฤติกรรมของเพื่อน จึงทำให้ไม่มีความผิดทางกฎหมาย แต่ทั้งหมดก็หายหน้า หายตา ไปจากวงการแทบจะทันที ชื่อเสียง เงินทองที่แลกมาด้วยความอดทน พยายามฝึกฝน มาตลอดชีวิต ถูกพรากไปเพราะความหลงระเริงในชื่อเสียง ในความเป็นอภิสิทธิ์ชน เช่นนั้นเอง

ส่วนคดีของซึงรี เขาถูกฟ้องรวม 9 ข้อหา ทั้ง การจัดหาบริการทางเพศ, ยักยอก และ การเล่นพนันจนเป็นนิสัยฯ ซึงรี ต่อสู้คดีจนถึงชั้นฎีกา โดยศาลฎีกาถูกลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ซึงรี พ้นโทษจำคุกออกมาช่วง ก.พ.2023 และแทบจะไม่มีการปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกเลย

เช่นเดียวกับเพื่อนของเขา จอง จุน ยอง ที่ถูกดำเนินคดีข่มขืนฯ ตามหลักฐานที่เขาถ่ายและส่งให้เพื่อน ๆ ดูด้วยมือตัวเองผ่าน กลุ่มแชท Kakao Talk ศาลฯ ตัดสินจำคุก 5 ปี และเขาพ้นโทษแล้ว เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

นักจิตวิทยา ชี้ "ย่ามใจ -หลงใหลตัวตน" ทำถลำลึก

ทั้ง 2 คดี มีความคล้ายคลึงกันคือ เกิดในหมู่สังคมคนดังและอิทธิพลทางสังคม เหตุการณ์และการกระทำของพวกเขา ไม่ได้เกิดขึ้นในสังคมปกติทั่วไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนมากมายในแวดวงที่รับรู้หรือพบ เห็น แต่กลับไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ราวกับว่า นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิดต่อใคร ไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่

ผศ.ดร.อภิชญา ไชยวุฒิกรณ์วานิช อ.ประจำแขนงวิชาจิตสังคม คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า เป็นธรรมชาติของมนุษย์เวลาที่คนดังหรือคนมีชื่อเสียง ยิ่งถ้าคนที่มีภาพลักษณ์เป็นคนดี ผู้คนก็เชื่อถือ เชื่อแล้วว่าเป็นคนดี ฉะนั้นก็จะมีอิทธิพลในการชักจูงคนอื่นได้ง่าย

ผศ.ดร.อภิชญา ไชยวุฒิกรณ์วานิช อ.ประจำแขนงวิชาจิตสังคม คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผศ.ดร.อภิชญา ไชยวุฒิกรณ์วานิช อ.ประจำแขนงวิชาจิตสังคม คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผศ.ดร.อภิชญา ไชยวุฒิกรณ์วานิช อ.ประจำแขนงวิชาจิตสังคม คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"ในทางจิตวิทยา มีเรื่องของอิทธิพลอย่างหนึ่ง คือ ถ้าทุกคนเชื่อหมด นิ่งหมด พอเราไม่เชื่อหรือรู้สึกขึ้นมา เราอาจจะเป็นแกะดำ เลยไม่มีใครกล้าพูดและยิ่งถ้าเขาเป็นคนดัง เสียงของเขาก็จะดังกว่าคนทั่วไป ดังนั้นถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน การพูดไปโดยไม่มีหลักฐานก็อาจจะโดนทัวร์ลงได้หรือถูกเล่นงานกลับได้"

ผศ.ดร.อภิชญา อธิบายถึง จิตวิทยาอาชญากรรม กรณีดังกล่าวว่า สังคมรอบข้างมีผลต่อพัฒนาการของพฤติกรรม เช่น กรณีที่เคยทำเรื่องหนึ่งมาก่อน มีประสบการณ์เคยทำมาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร หรือไม่มีใครทำอะไรได้ ก็เกิดความย่ามใจ ก็เลยทำมาตลอด แต่คนในลักษณะนี้ถ้าถึงวันที่ล้มผู้คนจะกระหน่ำซ้ำเติม เพราะเห็นพฤติกรรมมาโดยตลอดเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้นเอง

"ส่วนหนึ่งก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เรายังมีความกลัวกลัวผู้มีอำนาจ กลัวอะไรที่มองไม่เห็น ดังนั้นบางทีก็จะไม่กล้าที่จะพูดออกไปอย่างชัดเจน เพราะก็ไม่รู้ว่า หลักฐานที่มีเพียงพอหรือไม่ และอีกฝ่ายมีอิทธิพลเหนือเรามากน้อยแค่ไหน"

แต่หากรวมกันเป็นกลุ่มชุมชนมากขึ้นก็จะมีน้ำหนัก มีพลังที่จะต่อกรกับผู้ที่มีอำนาจมีชื่อเสียงได้ ตรงกันข้าม หากทุกคนต่างมองว่า ธุระไม่ใช่ ก็อาจจะยิ่งทำให้คนนั้น ทำอะไรได้มากขึ้นตามอำเภอใจ

เรามักจะได้ยินดาราพูดเสมอว่า จะคอยเตือนตัวเองว่า ไม่ให้หลงตัวเอง ไม่ให้หลงใหลในชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ต้องคอยเตือนตัวเอง ต้องมีสติ ต้องคอยบอกตัวเองว่า ทุกอย่างมีวันขึ้น ก็มีวันลง และ "อย่าหลงลืมตนเอง" ผศ.ดร.อภิชญา กล่าวทิ้งท้าย

รายงานโดย : กิตติพร บุญอุ้ม ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมไทยพีบีเอส

อ้างอิง
https://news.sky.com/story/p-diddy-what-is-sean-combs-accused-of-and-what-has-he-said-13103248
https://en.wikipedia.org/wiki/Burning_Sun_scandal 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง