วันนี้ (5 ต.ค.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในสถานการณ์ภัยพิบัติ ว่า
ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. รายงานการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ในสถานการณ์ภัยพิบัติ ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. - 4 ต.ค.2567 พบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ 38 จังหวัด
(เชียงราย พิษณุโลก อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ตาก ปราจีนบุรี หนองคาย นครพนม บึงกาฬ สุโขทัย แพร่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี ลำปาง หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน น่าน นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ยะลา ระยอง พะเยา พังงา ตรัง สตูล ชุมพร ลำพูน ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี มหาสารคาม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น และอุบลราชธานี) จำนวน 102 อำเภอ 421 ตำบล 2,114 หมู่บ้าน 55,622 ครัวเรือน
มีประชาชนกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ 66,342 ครัวเรือน 79,604 ราย แบ่งเป็นกลุ่มเด็ก 9,107 ราย เยาวชน 7,558 ราย คนพิการ 12,076 ราย ผู้สูงอายุ 39,627 ราย และผู้มีรายได้น้อย 11,236 ราย
นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางแล้ว 13,157 ราย โดยช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ต่าง ๆ 5,337 ครอบครัว ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ 6,632 ราย ซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัย 50 ราย และการกำพร้า 6 ราย
อีกทั้งศูนย์รับบริจาคกระทรวง พม. มอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัย ด้วยความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชน อาทิ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้สูงอายุ ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ยารักษาโรค กายอุปกรณ์สำหรับคนพิการ และเครื่องอุปโภคบริโภค เฉพาะตามกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ไม้เท้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สุขาเคลื่อนที่ รวมทั้งการตั้งโรงครัว 21 โรงครัว ร่วมกับทางจังหวัดจังหวัดน่าน แพร่ พะเยา สุโขทัย เชียงราย และเชียงใหม่
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวง พม. ได้เปิดพื้นที่ของหน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว 16 จังหวัด เพื่อเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในการรองรับผู้ประสบภัย รวม 46 แห่ง แบ่งเป็น 1.ภาคเหนือ 8 จังหวัด 26 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย 2.ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย 3.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย 4.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงราย 5.บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (ริมกก) 6.บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 1) และ 7.บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 2)
2.จังหวัดเชียงใหม่ 8 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) 2.บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย) 3.บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย 2) 4.สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ 5.สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่ 6.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ 7.ศูนย์พักพัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน และ 8.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์
3.จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ 2.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน 4.จังหวัดลำพูน 2 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดลำพูน และ 2.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำพูน 5. จังหวัดลำปาง 1 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ
6.จังหวัดพะเยา 2 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา และ 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพะเยา 7.จังหวัดน่าน 2 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน และ 2.ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน และ 8.จังหวัดแพร่ 2 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ และ 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด 20 แห่ง ได้แก่ 1.จังหวัดหนองคาย 3 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองคาย 2.สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดหนองคาย และ 3.นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย 2.จังหวัดเลย 2 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเลย และ 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเลย
3.มุกดาหาร 2 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร และ 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดมุกดาหาร 4.จังหวัดบึงกาฬ 2 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ และ 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬ 5.จังหวัดอุบลราชธานี 2 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านศรีวนาไล และ 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุบลราชธานี
6.จังหวัดนครพนม 3 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม 2.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม และ 3.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม 7.จังหวัดขอนแก่น 3 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น 2.ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภาจังหวัดขอนแก่น และ 3.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดขอนแก่น และ 8.จังหวัดอุดรธานี 3 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ 2.นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง และ 3.สถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดอุดรธานี
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือ เร่งด่วน ขอให้โทรติดต่อมาที่ สายด่วน พม. โทร.1300 ของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. เราพร้อมส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเครื่องที่เร็วลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยด่วน
อ่านข่าว : พบสัญญาณช้าง 3 เชือกบนเขา ห่างปางช้างแม่แตง 1 กม.
สลด! ช้างจมน้ำตายหลายเชือก Air Force บินสำรวจลำน้ำ
นิวไฮ! น้ำปิงขึ้นสูง 5.28 ม.ย่านเศรษฐกิจเชียงใหม่อ่วม