วันนี้ (30 ก.ย.2567) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะทรงตัว โครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมาเริ่มลดลง ขณะนี้อยู่ระหว่างการล้างทำความสะอาด และฟื้นฟูสายทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติโดยเร็ว
ล่าสุดสำนักบำรุงทาง ได้รายงานถึงโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม หนองคาย อุดรธานี และสุโขทัย ได้รับผลกระทบ 13 สายทาง สัญจรผ่านได้ 4 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 9 สายทาง โดยมีสายทางที่สัญจรผ่านไม่ได้ ดังนี้
- ถนนสาย นพ.3065 แยก ทล.212-บ้านหนองสาหร่าย อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม (ช่วง กม.ที่ 3+100 ถึง 3+400)
- ถนนสาย นพ.4059 แยก ทล.2032-บ้านไทยสบาย อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม (ช่วง กม.ที่ 9+900 ถึง 10+100)
- ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นค.3009-บ้านสร้างคอม (ตอนอุดรธานี) อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย (ช่วง กม.ที่ 7+525 ถึง 8+850 และ 12+825 ถึง 13+400)
- ถนนสาย นค.3015 แยก ทล.211-บ้านโพธิ์ตาก อ.ท่าบ่อ อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย (ช่วง กม.ที่ 23+600 ถึง 24+800)
- ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211-บ้านธาตุกลางน้อย อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย (ช่วง กม.ที่ 12+300 ถึง 12+900 และ 16+300 ถึง 17+300)
- ถนนสาย นค.1034 แยก ทล.2-บ้านโนนสีทอง (ตอนอุดรธานี) อ.เมือง จ.หนองคาย (ช่วง กม.ที่ 9+000 ถึง 11+000)
- ถนนสาย อด.4002 แยก ทล.2096-บ้านสร้างคอม อ.สร้างคอม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี (ช่วง กม.ที่ 35+400 ถึง 37+800)
- สะพาน สท.009 สะพานคลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
- สะพาน สท.010 สะพานสุขุมสามัคคีสามตำบล อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงชนบท ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องจักร และกำลังเจ้าหน้าที่ รองรับสถานการณ์ในอนาคต สำหรับสายทางที่ได้รับผลกระทบ ได้ปิดการจราจร ติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
อ่านข่าว : 6 วันท่วมเชียงใหม่ "น้ำเน่า" สั่งสูบออก ห่วงฝนระลอกใหม่