- สภาพอากาศวันนี้ "เหนือ-อีสาน-ตะวันออก-ใต้" ฝนตกหนักบางแห่ง
- ระทึก! พนังกั้นน้ำยมแตกเพิ่ม 2 จุดอพยพชาวบ้านหนี
วันนี้ (26 ก.ย.2567) กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 10 จังหวัด ภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานีชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรีปทุมธานีนนทบุรีและสมุทรปราการรวมถึงกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.นี้
โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ
อ่านข่าว เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำ-แนวฟันหลอ 6 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม 28 ก.ย.-2 ต.ค.
รวมถึงแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดี ปภ. กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมชลประทาน ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง และอ่าวไทย
ขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมฝ่ายตะวันออก บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางพื้นที่
จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำ 1-7 วันข้างหน้า คาดว่าในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ประมาณ 2,000–2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำ Sideflow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
รวมกับคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณ 2,350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ำเข้าระบบกรมชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ในอัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
มีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้น แบบขั้นบันได ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1–1.50 เมตร ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.นี้
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง รวมถึงกทม. เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ
พร้อมแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ และบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย พร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าว : รฟท.แจ้งปรับเส้นทาง 12 ขบวนรถไฟสายเหนือเหตุน้ำท่วม
แจ้งจับข้อหาฉ้อโกง "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ไลฟ์ขายทองคำตกมาตรฐาน