กรุงศรี ชี้เศรษฐไทยขยับ เร่งดัน "ท่องเที่ยว-ส่งออก" ฟื้นเชื่อมั่น

เศรษฐกิจ
3 ก.ย. 67
16:50
386
Logo Thai PBS
กรุงศรี ชี้เศรษฐไทยขยับ เร่งดัน "ท่องเที่ยว-ส่งออก" ฟื้นเชื่อมั่น
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศูนย์วิจัยกรุงศรี ชี้ เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวไตรมาส 3 “ท่องเที่ยว-ส่งออก” พระเอกดันขับเคลื่อน หวังรัฐบาลใหม่ฟื้นเชื่อมั่น-กระตุ้นใช้จ่ายในประเทศ เผยเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว เฟดส่งสัญญาณชัดลดดอกเบี้ย ก.ย.นี้

วันนี้ (4 ก.ย.2567) ศูนย์วิจัยกรุงศรี วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยว่าภาคการท่องเที่ยว และส่งออกยังคงเป็นพระเอกในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 จากอุปสงค์จากต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงเดือนก.ค.แต่ความเชื่อมั่นด้านการใช้จ่ายในประเทศยังอ่อนแอ

ศูนย์วิจัยกรุงศรี ประเมินว่า แรงส่งจากการใช้จ่ายในประเทศอาจแผ่วลงบ้างในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและรอการจัดตั้งรัฐบาล แต่เศรษฐกิจไทยโดยรวมในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

โดยมีแรงหนุนหลักจาก ภาคท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโต ปัจจัยบวกจากมาตรการวีซ่าฟรีแก่ 93 ประเทศ และก้าวเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งอาจเป็นปัจจัยทางเทคนิคที่สนับสนุนให้อัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเร่งสูงขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่คาดว่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่น และกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ แต่ยังต้องติดตามความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจรวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะปรับมาเป็นการโอนเงินให้แก่กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้พิการรวมกันราว 14.5 ล้านคน ความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของภาคส่งออก รวมถึงผลกระทบจากน้ำท่วม และปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจชองประเทศขนาดใหญ่ ยังคงมีทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆตามกำลังซื้อที่เริ่มกลับมา เช่น สหรัฐฯที่เตรียมปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 4 เดือน

ศูนย์วิจัยกรุงศรีประเมินว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปเนื่องจากความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยในปัจจุบันที่ยังค่อนข้างต่ำ โดยคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25%

ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นในเดือนส.ค. แต่คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังคงโตต่ำจากความอ่อนแอของภาคการผลิตและการส่งออกที่ต้องเผชิญกับสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น

ศูนย์วิจัยกรุงศรีประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่น สิ้นปี 2567 จะไม่เกินกว่าระดับ 0.50% เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินพร้อมกับหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ในส่วนของพี่ใหญ่อย่าง จีน ยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาคการผลิตที่เปราะบาง รายงาน PMI ภาคการผลิตหดตัวติดต่อกัน เป็นเดือนที่ 4 สวนทางกลับภาคเอกชนหรือ Caixin ที่รายงาน PMI ภาคการผลิตพลิกกลับมาขยายตัวหลังลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในเดือนก.ค.

ขณะเดียวกันทางการรายงาน PMI นอกภาคการผลิตขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 50.2 เป็น 50.3 ด้านสงครามการค้ายังขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุด แคนาดาประกาศขึ้นภาษีนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มในอัตรา 100% มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค.67 เหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ 15 ต.ค.นี้

 อ่านข่าว:

70 ได้ลุ้น! กอช.เล็งชง ครม.ชุดใหม่ขยายอายุซื้อ "หวยเกษียณ"

เปิดจุดรับตัวอย่าง "ทุเรียน" หาการปนเปื้อน​ "แคดเมียม"

ธปท.-หน่วยงาน ยกร่างกฎหมายคืนเงินผู้ถูกหลอกโอนเงิน 100%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง