ร้อนรนทำ “ปืนลั่น” ต้องลบร่องรอยกัน “หน้าแตก”

การเมือง
27 ส.ค. 67
15:38
4,245
Logo Thai PBS
ร้อนรนทำ “ปืนลั่น” ต้องลบร่องรอยกัน “หน้าแตก”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
แม้นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะยืนยันว่าเป็นอำนาจของนายกฯในการคัดเลือกใครเป็นรัฐมนตรีใน ครม. เพราะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากเกิดปัญหาขึ้น

แต่ประเด็นรายชื่อรัฐมนตรี ที่ถูกส่งมาในโควตาของพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไม่ได้รับเอกสารกรอกคุณสมบัติรัฐมนตรี ทั้งที่เป็น 1 ใน 4 รายชื่อของพรรค จนนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ต้องตั้งโต๊ะแถลงทวงเอกสารดังกล่าวจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ

ทั้งยังเพิ่มแรงกดดันด้วยคำพูดที่ว่า มั่นใจว่านายกฯ จะทำตามกติกาและสัญญาข้อตกลงเดิมที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ สส.39 คน ของพรรคโหวตสนับสนุน น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ

สำทับด้วยคำพูดของ น.ส.แพทองธาร ที่อ้างถึงอำนาจการตัดสินใจเป็นของนายกฯ และบอกให้เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อการตรวจสอบคุณสมบัติมีหลายขั้นตอน เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน หลายพรรคยังติดขัด ฉะนั้นขอให้รอสักหน่อย

มีนัยโบ้ยอยู่ในทีว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา แต่อำนาจเด็ดขาดสุดท้ายอยู่ที่นายกรัฐมนตรี

ยังไม่กล้าให้คำตอบตามความจริงว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ได้หลุดวงโคจรไปจากการเป็นรัฐมนตรีใน ครม.ชุดใหม่ไปแล้ว ทั้งที่คอการเมืองโดยทั่วไป ต่างรู้ดีกันกระจ่าง เมื่อไม่ได้รับเอกสารกรอกคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี แต่กลับยังเตะถ่วงอ้างให้ร้องเพลงรอ

เพราะเหตุผลสำคัญ แม้จะอ้างว่าเป็นอำนาจนายกฯ ในการเลือกใครเป็นรัฐมนตรีใน ครม.ก็จริง แต่ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 15 (13) ระบุว่า ข้อบังคับของพรรคการเมือง ต้องมีรายละเอียดหลักเกณฑ์การเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งต้องให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในการคัดเลือกอย่างกว้างขวาง

ขณะที่ในข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อที่ 92 กำหนดวิธีการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ต้องมีการประกาศให้สมาชิกทราบ เป็นการทั่วไป และต้องเสนอชื่อต่อคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาคัดเลือก

เป็นรายละเอียดและอ้างที่มาจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ที่โพสต์ถึงเรื่องนี้ และชี้ให้เห็นว่า มติของกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐด้วยเสียงส่วนใหญ่ ที่ยืนยันใน 4 รายชื่อรัฐมนตรีที่ พปชร.ส่งให้พรรคเพื่อไทย เป็นมติที่ชอบธรรมถูกต้องตามกฎหมาย หากเพื่อไทยเห็นว่าใครไม่เหมาะสม ต้องส่งชื่อคืนเพื่อให้กรรมการบริหารพรรคลงมติเสนอคนใหม่

การส่งรายชื่อรัฐมนตรี แบบ “หากฉันไม่ได้ ให้น้องชายฉันเป็นแทน” จึงไม่อยู่ในกระบวนการที่กฎหมายบัญญัติ

เป็นมุมมองของคนระดับที่เป็นกรรมการการเลือกตั้งมาก่อน ย่อมต้องเข้าใจและมีน้ำหนักมากไม่น้อย เพราะเชื่อว่า หากการฟอร์มรัฐบาลเสร็จสิ้นลงแล้ว มี สส.นำเรื่องนี้ไปขยายผลร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการตรวจสอบ ย่อมจะมีผลกระทบถึงนายกฯที่เป็นคนเลือกรัฐมนตรีในรัฐบาลอย่างเลี่ยงไม่ได้

ทั้งเป็นการเริ่มต้นของที่มาและส่งเสริมสนับสนุน ให้เกิด สส.กลุ่มงูเห่า ซึ่งอาจมีผลต่อปัญหาไม่มีความเป็นเอกภาพของรัฐบาลได้ เพราะการเข้าร่วมรัฐบาลแบบครึ่งๆ เสี้ยว ๆ ของบางพรรคการเมือง จะสุ่มเสี่ยงต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ในวันข้างหน้าได้

จึงได้เห็นการขยับหวังลบร่องรอยจากปฏิบัติการ “ปืนลั่น” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้สัมภาษณ์ใหม่ว่า ไม่เคยแอบส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทย ไม่รู้ใครไปเขียนกันเองหรือไม่ แต่ยืนยันไม่เคยส่งชื่อตัวเอง เพราะเป็นเรื่องของพรรค

เป็นการฉากถอยออกมา เพื่อให้สวยและดูดี แทนที่จะตกเป็นข่าวว่า ส่งรายชื่อรัฐมนตรีในนามของกลุ่มแบบดันทุรัง เพราะเท่ากับไม่ได้มีมติรับรองจากกรรมการบริหารพรรคตามข้อบังคับพรรค

ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ล่าสุดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค จะออกมาปฏิเสธข่าวส่งรายชื่อรัฐมนตรีในนามพรรค 2 คนเข้าร่วมรัฐบาลตามที่มีข่าวปรากฏก่อนหน้านี้

หลังจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรค อ้างว่านายเฉลิมชัย ได้เจรจาและถูกทาบทามเข้าร่วมรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เพียงแค่อยู่ระหว่างรอหนังสือหรือเทียบเชิญอย่างเป็นทางการเท่านั้น

เป็นการถอยฉากออกมาอย่างเร่งด่วนเช่นกัน หลังจากมีเสียงปฏิเสธจากคนในพรรคว่า ยังไม่มีเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมร่วมของกรรมการบริหารพรรค และ สส. ซึ่งต้องมีมติเห็นชอบ หากพรรคจะเข้าร่วมรัฐบาล

ประกอบกับการออกโรงคัดค้านแบบหัวชนฝาหลายครั้ง ของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค และเป็นผู้อาวุโส ที่ยังมีบารมีภายในพรรค ถึงขั้นกล่าวว่า แม้จะถูกขับออกจากพรรค ก็จะไม่เปลี่ยนจุดยืนค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

ครั้นหวังจะรอให้แกนนำตั้งรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทย พูดเชื้อเชิญอย่างเป็นทางการเสียที ก็ไร้วี่แวว จนโดนแซะว่า เป็นฝ่ายอยากจะเข้าร่วมรัฐบาลเสียเอง

กระทั่งถูกกูรูทางการเมืองมองว่า เป็นเพียงการอ้างถึงเพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ไปหันหน้าเจรจาตกลงกันให้ได้ ไม่ใช่ตั้งใจจะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

การออกตัวแรงและเร็ว แบบพลั้งเผลอทำ “ปืนลั่น” จึงต้องเร่งรีบหาทางกู้หน้าไม่ให้แตกยับมากกว่านี้ จึงตามมาอย่างเลี่ยงไม่พ้น


วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ดินสไลด์ปิดทับถนนบ่อเกลือ น่าน - น้ำป่าไหลหลากจ่อท่วม รพ.เทิง

ผงะ! เครื่องเตือนดินถล่มเขานาคเกิดปลวกกิน เหตุไม่แจ้งเตือน

เปิดไทม์ไลน์ตั้ง ครม.แพทองธาร 1 คาดต้น ก.ย. นำขึ้นทูลเกล้าฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง