วันนี้ (23 ส.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ทยอยเข้าหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และทีมรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเสนอแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและการขับเคลื่อนนโยบายร่วมกัน โดยแต่ละรอบใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น มีข้อเสนอว่าจะช่วยเหลือประชาชน ที่ต้องแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มเปราะบาง จะต้องเป็นการมอบเงินให้ทันที ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มที่พอมีกำลังซื้อ ควรใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คล้ายกับโครงการคนละครึ่ง ได้แก่โครงการคูณ 2 เช่นประชาชนใช้เงิน 100 บาท ก็จะได้เงินเพิ่มอีก 100 บาทจากรัฐบาลที่สนับสนุน
อ่านข่าว หอการค้าไทย เห็นด้วย "ดิจิทัลวอลเล็ต" แจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง
และกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ออกมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อ เพื่อทำให้เงินเข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็วและจะต้องช่วยประชาชน ลดปัญหาหนี้ รวมถึงการลดดอกเบี้ยต่างๆ ซึ่งต้องให้ความสำคัญ
นำเสนอเรื่องงบค่าใช้จ่ายกับประชาชน ค่าน้ำ ค่าไฟ สินค้าที่มีความจำเป็นมากใช้ในชีวิตประจำวัน ภาคเอกชนอยากช่วยดูว่าส่วนที่จะตรึงราคาได้ และอีกส่วนประชาชนมีหนี้มาก ต้องช่วยลดหนี้ และดอกเบี้ย
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ภาคเอกชน สนับสนุน นโยบายแจกเงินสด กลุ่มเปราะบาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศช่วงปลายปีนี้
แนะแก้สินค้าจีน-เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรม ขอให้นายกรัฐมนตรี และทีมรัฐบาล ขับเคลื่อน 5 เรื่องเร่งด่วน และ 3 เรื่องระยะยาว โดยมุ่งแก้ไขปัญหาสินค้าราคาถูกนำเข้าจากจีน ลดต้นทุนไฟฟ้า-พลังงาน และเติมเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ 1 แสนล้านบาท ให้ SME เพื่อเสริมสภาพคล่อง
ส่วนมาตรการระยะยาว ขอให้ช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ขอให้กระทรวงต่างๆ เร่งแก้กฎหมายซ้ำซ้อน ที่ขณะนี้มีมากกว่า 1 แสนฉบับ เพื่อเอื้อให้เอกชนทำงานง่ายขึ้น แต่เอกชนย้ำว่า ปัญหาเร่งด่วนขณะนี้ คือการทุ่มตลาดของสินค้าจีน
ท่ามกลางปัญหาการเงิน ต้นทุน และหมัดน็อกคือสินค้าราคาถูกต้อง ดั้มเข้ามา จึงมาเสนอให้รัฐรับทราบ และเชื่อว่าจะมีมาตรการป้องกันสินค้า ไม่ว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย และเพิ่มอุปกรณ์ตู้คอนเทนเนอร์
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การหารือร่วมกับภาคเอกชน ต่างเห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง
และย้ำว่า ภาคเอกชนพร้อมทำงานร่วมกันกับรัฐบาล
ยังไม่ลงรายละเอียด แต่ได้เชิญภาคเอกชนเข้ามา ทั้งสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม และสมาคมธนาคารไทย เนื่องจากยังไม่สามารุถปฏิบติหน้าที่ได้จึงรับฟังความเห็นของทั้ง 4 องค์กร
น.ส.แพทองธาร ย้ำว่า รัฐบาลจะให้ความชัดเจนถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ในวันแถลงต่อรัฐสภา พร้อมชี้แจงได้หารือและขอคำแนะนำจากนายทักษิณ ชินวัตร เบื้องต้นแล้ว
นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า วาระหลักของรัฐบาลในขณะนี้ คือการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่มีอยู่กว่า 16 ล้านล้านบาท เป็นหนี้ในระบบประมาณ 13 ล้านล้านบาท และยังมีหนี้นอกระบบ และหนี้สหกรณ์ พร้อมเสนอให้ธนาคารกรุงไทย เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาหนี้ หากทำได้ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นได้ คนที่คิดวิธีการได้ดีที่สุด คือเจ้าหนี้ ส่วนกระทรวงการคลัง จะยืนอยู่ข้างหลังเพื่อให้ทำงานสอดรับกัน
อ่านข่าวอื่นๆ
"ทักษิณ" โชว์วิชั่นแก้หนี้-ฟื้นเศรษฐกิจ เฉลยดิจิทัลวอลเล็ตใครได้บ้าง