วันนี้ (22 ส.ค.2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามผลปฏิบัติการระดมปิดล้อมปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ แบบเรียลไทม์ โดยมีเป้าหมายการตรวจค้น 2,941 เป้าหมาย กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด 770 เครือข่าย มีบุคคลตามหมายจับ 125 คน
ผลการปฏิบัติงานเบื้องต้น จับผู้กระทำความผิดแล้ว 1,960 คน ตรวจยึดยาบ้า 11 ล้านเม็ด และสารเสพติดประเภทอื่น ๆ จำนวนมาก รวมถึงอาวุธปืนที่ยึดได้กว่า 157 กระบอก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ไปจนถึงผู้ค้ารายย่อย จากการสืบสวนและการร้องเรียนจากชาวบ้าน ปัจจุบันยังพบปัญหายาเสพติดระบาดอยู่ในพื้นที่ชุมชนจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุที่จะรวบรวมเป้าหมายและเครือข่ายพ่อค้ายาเสพติด ก่อนเข้าตรวจค้นในวันนี้
ขณะเดียวกันกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจาก 15 เครือข่าย โดยจับในพื้นที่ภาคเหนือ 5 คดี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 คดี ภาคกลาง 1 คดี ภาคตะวันออก 1 คดี ภาคใต้ 1 คดี และพยายามส่งออกนอกประเทศ ในลักษณะซุกซ่อนรวมอยู่กับสินประเภทอื่นส่งผ่านบริษัทขนส่ง และลักลอบผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีก 2 คดี จับผู้ต้องหาได้ 49 คน ยึดยาบ้า 20 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 3,400 กิโลกรัม พร้อมขยายผลยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 28 ล้านบาท
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดมาได้จะส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดำเนินการตามขั้นตอนในการตรวจพิสูจน์และเผาทำลาย โดยผ่านการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน และรัฐมุ่งมั่นที่จะป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ส่วนผลงานการตรวจยึดยาเสพติดจำนวนมากอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเพราะยังมีการลักลอบนำยาเสพติดที่ผลิตจากทางประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน แต่ทางตำรวจมุ่งเน้นไปที่ผู้เสพและผู้ค้ารายย่อย เพื่อลดปริมาณความต้องการของผู้เสพให้มากที่สุด