คต.เผย ค้าชายแดนสงขลาคึกคัก มาเลเซียแห่ชอปสินค้าไทย

เศรษฐกิจ
19 ส.ค. 67
18:58
430
Logo Thai PBS
 คต.เผย ค้าชายแดนสงขลาคึกคัก มาเลเซียแห่ชอปสินค้าไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พาณิชย์ เผย การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย คึกคัก ครึ่งปีดึงเงินเข้าประเทศ กว่า 2.9 แสนล้านบาท แม่ค้าตลาดกินหยงชี้ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจับจ่ายช่วงสุดสัปดาห์จำนวน ชี้เงินดิจิทัล 10000 บาท ไม่คาดหวังแต่ถ้ามีช่วยให้ประชาชนลดค่าใช้จ่าย

วันนี้ ( 19 ส.ค.2567) นางสาวจิตติมา ศรีถาพร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าปัจจุบันประเทศไทยทำทำการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่องมีสินค้าไทยที่ส่งออกทั้งการค้าผ่านแดนและการค้าชายแดนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศและประชาชนตามจังหวัดชายแดนอย่างมหาศาล

นางสาวจิตติมา ศรีถาพร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

นางสาวจิตติมา ศรีถาพร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

นางสาวจิตติมา ศรีถาพร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ทั้งนี้กรมฯเดินหน้าผลักดันการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และการค้าผ่านแดนไทยไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งส่งเสริมการค้าการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค ตลอดจนผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA นำไปสู่การขยายตัวของการส่งออกของไทยได้อย่างยั่งยืน

ปี 2567 - 2570 กรมฯตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของประเทศไทยให้เป็น 2 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในปี 2570 ล่าสุดกรมฯได้ลงพื้นที่จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษรวมถึง สถานการณ์การค้าชายแดนไทย – มาเลเซีย ณ ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมถึงรับฟังปัญหาและอุปสรรคทางการค้าชายแดนจากผู้ประกอบการในพื้นที่

รองอธิบดี กล่าวอีกว่า สงขลาเป็น 1 ใน 10 จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีฐานการผลิตที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา อาหารทะเล และอิเล็กทรอนิกส์ และมีความพร้อมเรื่องการคมนาคมขนส่งและเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย และมีด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์เป็นประตูเชื่อมการค้าไทยกับประเทศมาเลเซีย

รวมทั้งเป็นพื้นที่ภายใต้โครงการความร่วมมือเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย – มาเลเซีย - ไทย (IMT-GT) ทำให้ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์เป็นด่านชายแดนทางบกที่มีมูลค่าการค้าชายแดน - ผ่านแดนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของไทย

โดยในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสองด่านกว่า 5.69 แสนล้านบาท และเนื่องจากทั้งสองพื้นที่อยู่ใกล้ท่าเรือปีนังและท่าเรือกลางของมาเลเซีย และมีการเชื่อมโยงการรถไฟระหว่างไทย – มาเลเซีย

นอกจากนี้กรมฯ ยังเร่งจัดตั้งศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดน ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ OSS จะมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับศักยภาพของด่านชายแดน และอำนวยความสะดวกทางการค้าชายแดนและผ่านแดนให้แก่ประชาชน ช่วยลดระยะเวลา ลดขั้นตอน และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและผลักดันมูลค่าการค้าชายแดน – ผ่านแดนให้เป็นไปตามเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ปัจจุบันกรมฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ OSS เรียบร้อยแล้ว โดยนำร่องในจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูง จำนวน 10 แห่ง ใน 8 จังหวัด คือ เชียงราย ตาก หนองคาย นครพนม มุกดาหาร ตราด อุดรธานี และสงขลา)

โดยจ.สงขลา ศูนย์ OSS มีจำนวน 2 แห่ง ณ ด่านศุลกากรสะเดาและด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สามารถมาติดต่อขอรับบริการต่างๆ ได้ ณ จุดเดียว   

สถิติปี 2566 มีจำนวนผู้ใช้บริการศูนย์ OSS ณ ด่านศุลกากรสะเดา รวม 1,278 ราย แบ่งเป็น ด่านศุลกากรสะเดา 520 ราย ด่านอาหารและยา 322 ราย ด่านตรวจประมง 210 ราย ด่านตรวจพืช 71 ราย ด่านกักกันสัตว์ 136 ราย และด่านป่าไม้ 19 ราย และในส่วนด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ มีจำนวนผู้ใช้บริการ รวม 3,756 ราย แบ่งเป็น ศุลกากรปาดังเบซาร์ 289 ราย ด่านอาหารและยา 2,400 ราย ด่านตรวจประมง 210 ราย ด่านตรวจพืช 300 ราย ด่านกักกันสัตว์ 432 ราย ด่านตรวจสัตว์ป่า 114 ราย และด่านป่าไม้ 11 ราย

สำหรับภาพรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนไทย-มาเลเซีย ปี 2567 (ม.ค. - มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 296,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 171,900 ล้านบาท (+8.89%) และการนำเข้า 124,910 ล้านบาท (-9.31%) โดยไทยได้ดุลการค้า 46,990 ล้านบาท

ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดนของด่านศุลกากรสะเดา ปี 2567 (ม.ค. - มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 214,411 ล้านบาท ลดลง 3.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 112,761 ล้านบาท (+10.40%) และการนำเข้า 101,650 ล้านบาท (-15.35%) ไทยได้ดุลการค้า 11,111 ล้านบาท

สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำยางข้น เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ถุงมือยาง ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ทางเทคนิค แผงวงจรไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ไม้แปรรูป แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า ไม้อัด และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ

ในส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดนของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ปี 2567 (ม.ค. - มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 78,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 55,960 ล้านบาท (+7.21%) และการนำเข้า 22,594 ล้านบาท (+39.08%) ไทยได้ดุลการค้า 33,365 ล้านบาท

สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ทางเทคนิค ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ ยางแผ่นรมควัน ชั้นที่ 3 ส่วนประกอบและอุปกรณ์อื่น ๆ น้ำยางข้น ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์นั่ง เครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เครื่องจักรที่ใช้กรองแยกของเหลวหรือก๊าซ

จากการสอบถามผู้ประกอบการในตลาดกิมหยง กล่าวว่า การค้าขายจะคึกคักในช่วงวันหยุด และเทศกาลต่างๆที่จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย และนักท่องเที่ยวคนไทย เดินทางเข้ามาซื้อของฝากที่ตลาดกิมหยงจำนวนมากสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจในหาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี ส่วนวันธรรมดาจะค่อนข้างเงียบเหงา

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผู้ค้าในตลาดกิมหยงกล่าวว่า มีก็ดีไม่มีก็ไม่เป็นไร ขอเพียงให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาคึกคักและช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนให้สามารถอยู่ได้

บรรยากาศในตลาดกิมหยง ช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนมาเลเซีย เดินทางมาซื้อสินค้าจำนวนมาก

บรรยากาศในตลาดกิมหยง ช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนมาเลเซีย เดินทางมาซื้อสินค้าจำนวนมาก

บรรยากาศในตลาดกิมหยง ช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนมาเลเซีย เดินทางมาซื้อสินค้าจำนวนมาก

สินค้าในตลาดกินหยงมีความหลากหลาก มีทั้งที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย เช่น ผลไม้ต่างๆและขนมขบเคี้ยว หรือจากจีน เช่นผลไม้จีน เม็ด เกาลัด  ส่วนสินค้าจากไทย เช่น ปลาหมึกกรอบ เม็ดมะม่วง มะม่วงเบา เม็ดถั่วต่างๆ

สินค้าในตลาดกินหยงมีความหลากหลาก มีทั้งที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย เช่น ผลไม้ต่างๆและขนมขบเคี้ยว หรือจากจีน เช่นผลไม้จีน เม็ด เกาลัด ส่วนสินค้าจากไทย เช่น ปลาหมึกกรอบ เม็ดมะม่วง มะม่วงเบา เม็ดถั่วต่างๆ

สินค้าในตลาดกินหยงมีความหลากหลาก มีทั้งที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย เช่น ผลไม้ต่างๆและขนมขบเคี้ยว หรือจากจีน เช่นผลไม้จีน เม็ด เกาลัด ส่วนสินค้าจากไทย เช่น ปลาหมึกกรอบ เม็ดมะม่วง มะม่วงเบา เม็ดถั่วต่างๆ

อ่านข่าว:

กำลังซื้อซบ! หวังนายกรัฐมนตรีคนใหม่แก้ปากท้อง-ดิจิทัลวอลเล็ต

พาณิชย์ เร่งสกัดทุนจีน ชงดีอีใช้กฎหมายล้อมคอก

สภาพัฒน์ฯ เผย GDP ไทยQ2 โต 2.3% มั่นใจทั้งปีขยายตัว 2.5%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง