"ปริญญา" ชี้ ระบบไอทีล่ม ไม่ใช่ฝีมือแฮกเกอร์

Logo Thai PBS
"ปริญญา" ชี้ ระบบไอทีล่ม ไม่ใช่ฝีมือแฮกเกอร์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ชี้ระบบไอทีล่ม ไม่ใช่ฝีมือ "แฮกเกอร์" แต่เป็นการออโต้อัพเดตระบบแอนตี้ไวรัส crowd strike ที่มีปัญหา จึงทำให้ระบบค้าง

ความคืบหน้ากรณีระบบไอทีล่มจนส่งผลกระทบต่อสายการบิน สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ธนาคาร ทั่วโลก

ล่าสุด วันนี้ (20 ก.ค.2567) นายปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของ Crowd strike ต่อไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ระบบวินโดว์จำเป็นต้องมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสคอยอัปเดตอยู่เสมอเพื่อป้องกันไวรัส ระหว่างการอัปเดตแอนตี้ไวรัส crowd strike เกิดมีปัญหา จึงทำให้ระบบค้าง (อัปเดทแล้ว failed)

การอัปเดตนี้เป็นกระบวนการแบบออโต้อัปเดต ไม่ได้เกิดจากแฮกเกอร์ หรือการโจมตีใด ๆ วิธีการแก้ไขต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง ธุรกิจที่เป็นแบบเรียลไทม์จึงต้องหยุดชะงัก ดังนั้นจึงเห็นภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นหน้าจอสีฟ้า

สำหรับธุรกิจอื่นที่ใช้วินโดว์ แต่ไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสของ Crowd strike จะไม่เกิดปัญหา แต่โปรแกรมแอนตี้ไวรัสทุกตัวสามารถเกิดปัญหาได้หมด

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าหนักกว่าเหตุการณ์ Y2K แนะนำให้ภาคธุรกิจในประเทศไทยที่มีการใช้วินโดว์มากถึงร้อยละ 90 ตื่นตัวหาแผนรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะจากความเสียหายครั้งนี้บริษัทประกันไม่จ่ายเงิน

สำหรับโปรมแกรมแอนตี้ไวรัส Crowd Strike ถือเป็นโปรแกรมยอดนิยมระดับ Top 5 ของโลก บริษัทใหญ่ทั่วโลกนิยมใช้ และมีราคาค่อนข้างแพง

อ่านข่าว : ทั่วโลกทยอยกลับสู่ภาวะปกติ หลังระบบไอที ขัดข้องครั้งใหญ่

 วุ่นทั่วโลก! Microsoft ระบบล่ม ทำสนามบิน-ธนาคาร-หุ้น ปั่นป่วน 

ยังแก้ไม่ได้! Microsoft ไทยแจงระบบล่มเหตุอัปเดตซอฟต์แวร์ 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง