"แกเร็ธ เซาธ์เกต" ประกาศลาออก หลังพาทีมชาติอังกฤษไปไม่ถึงฝัน

เซาธ์เกต ลงจากตำแหน่ง กุนซือทีมชาติอังกฤษ

วันนี้ (16 ก.ค.2567) หลังนำลูกทีมเดินทางกลับถึงบ้านเกิดได้ไม่นาน แกเร็ธ เซาธ์เกต เฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ชุดรองแชมป์ยูโร ประกาศลาออกจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่า ยุติบทบาทนายใหญ่ทัพ "สิงโตคำราม" ที่ทำมานาน 8 ปี

แถลงการณ์ของ เซาธ์เกต ระบุว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ลงเล่นและได้คุมทีมชาติอังกฤษ มันมีความหมายมากกว่าทุกสิ่งสำหรับผม ซึ่งผมได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับการทำหน้าที่ แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ทีมต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อเริ่มต้นใหม่ เกมนัดชิงชนะเลิศกับ สเปน ที่กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นเกมสุดท้ายของผมในฐานะเฮดโค้ชทีมชาติ

สำหรับ เซาธ์เกต เคยลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ในตำแหน่งกองหลัง มา 57 เกม ซึ่งหลังจากแขวนสตั๊ด 

เซาธ์เกต ได้เริ่มเส้นทางการเป็นโค้ชให้กับทีม มิดเดิ้ลสโบรช์ ในปี 2006-2009 จากนั้นได้รับการแต่งตั้งคุมทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ในปี 2013 ก่อนได้รับการแต่งตั้งคุมทีมชาติชุดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2016 แทนที่ แซม อัลลาไดซ์ ที่ถูกปลดจากเรื่องอื้อฉาว

แกเรธ เซาต์เกธ นำทัพ สิงโตคำราม ลงเตะ 102 นัด ชนะ 61 เสมอ 24 แพ้ 17 แม้ จะเก็บชัยชนะจะสูงถึง 59.80 % แต่ทีมชาติอังกฤษในยุคเขากลับไม่มีถ้วยรางวัลติดมือ

แกเรธ เซาต์เกธ นำทัพ สิงโตคำราม ลงเตะ 102 นัด ชนะ 61 เสมอ 24 แพ้ 17 แม้ จะเก็บชัยชนะจะสูงถึง 59.80 % แต่ทีมชาติอังกฤษในยุคเขากลับไม่มีถ้วยรางวัลติดมือ

ตลอดระยะเวลา 8 ปี นำทัพ "สิงโตคำราม" ลงเตะ 102 นัด ชนะ 61 เสมอ 24 แพ้ 17 แม้ จะเก็บชัยชนะจะสูงถึง 59.80 % แต่ทีมชาติอังกฤษในยุค เซาธ์เกต กลับไม่มีถ้วยรางวัลติดมือ ดีสุดคือการได้รองแชมป์ ยูโร 2020 และ 2024 ส่วนฟุตบอลโลก ปี 2018 ได้อันดับ 4 ขณะที่ฟุตบอลโลก ปี 2022 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

อ่านข่าว : สเปน ชนะ อังกฤษ 2-1 คว้าแชมป์ยูโรสมัยที่ 4 

“ค็อบบี้ ไมนู” แข้งดาวรุ่ง "แมนฯยู" สู่ ตัวทีเด็ด ทีมชาติอังกฤษ 

เทียบสถิติ 2 แข้งดาวรุ่ง ศึกยูโร 2024 "ไมนู - ยามาล"