เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2567 การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งจัดขึ้นในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ หลังคว้าคะแนนถล่มทลายจากผู้แทนพรรคตามรัฐต่างๆ ซึ่งมี 2,429 คนจาก 56 รัฐและดินแดน โดยข้อมูลเมื่อ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้คะแนนจากผู้แทนพรรคไปแล้ว 2,268 เสียง
การเลือกตัวแทนพรรคเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กว่าจะมาถึงจุดนี้ประกอบด้วยหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมท้องถิ่น เพื่อให้สมาชิกพรรคเลือกผู้สมัครที่ตนเองต้องการให้เป็นตัวแทนพรรค แต่ละพรรคในแต่ละรัฐต้องตั้งผู้แทนพรรคที่จะเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อลงคะแนนรับรองตัวแทนพรรคไปชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศ ซึ่งทรัมป์เอาชนะ นิกกี เฮลีย์
แต่ที่ได้รับความสนคือคนที่ทรัมป์จะเลือกเป็น running mate หรือคู่หู ที่จะเป็นผู้สมัครตำแหน่งรองประธานาธิบดี เพื่อเดินหน้ารณรงค์หาเสียงร่วมกัน จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่เป็นไปได้หลายคน แต่ในที่สุดทรัมป์ประกาศเลือก เจ.ดี. แวนซ์ (J.D. Vance) วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอเป็นคู่หู
ทรัมป์ประกาศข่าวผ่าน Truth Social ระบุว่า หลังการขบคิดพิจารณามายาวนาน เขาเลือก เจ.ดี. แวนซ์ เป็นคู่หูลงเลือกตั้งเพราะเหมาะสมที่สุด พร้อมระบุอีกว่า แวนซ์เคยเป็นนาวิกโยธิน จบการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอในเวลา 2 ปี และยังเป็นบัณฑิตจากโรงเรียนกฎหมายเยล
อ่านข่าว : ย้อนเหตุการณ์ "ลอบสังหารผู้นำ" เหตุรุนแรงทางการเมืองสหรัฐฯ
เจ.ดี. แวนซ์ (ซ้าย) จับมือกับทรัมป์ (ขวา) ระหว่างงานกิจกรรมในรัฐโอไฮโอ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2023 ซึ่ง เจ.ดี. แวนซ์ เป็น สว.โอไฮโอที่ทรัมป์เลือกเป็นคู่หู
เจ.ดี. แวนซ์ ในวัย 39 ปี เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ เพิ่งได้เป็น สว.เมื่อปี 2023 ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงปี 2016 เขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่เอาทรัมป์และเคยโพสต์ว่าทรัมป์โง่เขลาและเปรียบกับฮิตเลอร์ เป็นต้น แต่ตั้งแต่ปี 2022 แวนซ์กลายเป็นคนหนึ่งที่ทรัมป์หนุนหลัง เพราะเขาสนับสนุนเรื่องที่ทรัมป์กล่าวหาว่าเขาแพ้การเลือกตั้งในปี 2020 เพราะถูกโกง
ปูมหลังของแวนซ์ โตมาด้วยการเลี้ยงดูของตายาย เพราะแม่มีปัญหาติดสารเสพติด ส่วนพ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งเรื่องราวชีวิตของเขาถ่ายทอดลงในหนังสือ Hillbilly Elegy ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2016 และสร้างชื่อเสียงให้แวนซ์
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ประเมินว่า คนที่ทรัมป์อยากได้เป็นคู่หาต้องเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่ซื่อสัตย์ต่อทรัมป์และต้องไม่เด่นเกินหน้าเกินตา ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า แวนซ์มีปูมหลังที่มาจากชนชั้นแรงงานอย่างแท้จริง แต่ขณะเดียวกันก็จบเยลและยังมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับชนบทในสหรัฐฯ
สหรัฐฯ ยังไม่พบแรงจูงใจพยายามลอบสังหาร "ทรัมป์"
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนกรณีการพยายามลอบสังหารทรัมป์ ขณะขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนน์ซิลเวเนีย โดยทำเนียบขาวระบุว่า ยังไม่พบแรงจูงใจในการก่อเหตุของโทมัส แมธทิว ครูกส์ ผู้ก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจยังตรึงกำลังอบริเวณรอบๆ บ้านพักของเขาในเบเธล พาร์ค
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงเร่งสืบสวนหาสาเหตุแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ รวมทั้งตรวจสอบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุก่อนที่จะลงมือลอบสังหารทรัมป์และตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมมาได้ โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลในมือถือของผู้ก่อเหตุได้แล้วและกำลังตรวจสอบ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ยังไม่พบการโพสต์ข้อความข่มขู่ใดๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ก่อเหตุและไม่มีประวัติทางจิตเวช ขณะที่เพื่อนร่วมงานและครูระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนสุภาพเรียบร้อย สดใสและนิ่งๆ
อ่านข่าว
ลอบยิง "ทรัมป์" สะท้อนการเมืองสหรัฐฯ รุนแรง-เกลียดชัง ?
"เพนน์ซิลเวเนีย" ลดธงครึ่งเสา อาลัยนักดับเพลิงเสียชีวิตเหตุลอบยิงทรัมป์