วันนี้ (10 ก.ค.2567) เวลาประมาณ 13.00 น. ตำรวจ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นำผู้ต้องหาคดีชิงทองและฆาตรกรรมชิงรถ ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่
พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัย ผกก.สภ.แม่ปิง เปิดเผยการสอบสวนคดี ว่า ก่อนฝากขังได้นำผู้ต้องหาไปตรวจดีเอ็นเอ ส่วนอาการทางจิตที่ญาติร้องขอให้ตรวจสอบร่วมด้วยต้องประสานเรือนจำให้สั่งตรวจสอบ ขณะที่ผลตรวจยาเสพติดในร่างกายไม่พบสารเสพติดใดๆ
ขณะที่การสอบสวนผู้ต้องหา พบว่ามีอาการค่อนข้างเครียดและอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด เพราะสอบสวนใช้เวลานานและต้องนำตัวไปชี้จุดต่างๆ ซึ่งลักษณะของผู้ต้องหาทราบว่าปกติเป็นคนไม่ค่อยพูดคุยกับใคร
อ่านข่าว : แจ้ง 9 ข้อหาหนัก หนุ่ม 26 ปี ฆ่านำรถไปชิงทองห้างเชียงใหม่
ผกก.สภ.แม่ปิง ยังระบุถึงประเด็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ยืนยันว่ามีสำเนายื่นขอซื้อ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียน ทั้งนี้ต้องตรวจสอบอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าซื้อถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนทองจำนวน 80 บาทยังได้กลับคืนมาไม่ครบ ขณะนี้ได้มาเพียง 6-7 เส้น แม้จะค้นบ้านและรื้อเพดานบ้านแล้ว 3 ครั้ง โดยเงินที่ผู้ต้องหาได้จากการนำทองไปขายและจำนำ จำนวน 3.1 แสนบาท พบว่าผู้ก่อเหตุโอนเงินให้พ่อ แม่และน้องสาว คนละ 50,000 บาทและอีก 60,000 บาทให้กับน้องต่างมารดา ซึ่งตำรวจได้อายัดเงินทั้งหมดแล้ว จากการสอบสวนผู้รับโอนเงิน เบื้องต้นไม่ทราบที่มาของเงินที่ผู้ต้องหาโอนให้
อ่านข่าว : เปิดไทม์ไลน์ ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทอง จ.เชียงใหม่
สำหรับประเด็นการวางแผนก่อเหตุที่มีการระบุว่ามีแผน A และแผน B นั้น ผกก.สภ.แม่ปิง ยืนยันว่ามีเพียงแผนเดียว ส่วนที่ระบุว่าเป็นแผน B เป็นแผนกิจกรรรม เช่น การท่องเที่ยว หรือเดินทางไปที่อื่นๆ ไม่ใช่แผนการก่อเหตุ
สำหรับคดีนี้มีพื้นที่เกิดเหตุอยู่ใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ และ สภ.แม่ปิง ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนทั้ง 2 สภ.รับผิดชอบร่วมกัน โดย สภ.แม่ปิง เป็นสำนวนหลัก การสรุปข้อกล่าวหาทั้งหมดและฟ้องดำเนินคดี 9 ข้อหากับผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าว
กกต.มีมติรับรอง สว. 200 คน บัญชีสำรองอีก 100 คน
ศาลสั่งจำคุก “สันธนะ” 1 ปี รอลงอาญา คดีหมิ่นโรงแรมของ “ชูวิทย์”
จนท.ขยายผลเส้นทางการเงินคดีหุ้นสตาร์ค พบโอนไปให้ 7 คนเกือบ 400 ล้าน