วันนี้ (2 ก.ค.2567) นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รายงานกรณีพบนกยูงอินเดียเผือก และนกยูงอินเดียไฮบริด 2 ตัวปะปนในฝูงนกยูงไทยกลางป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเตรียมจับออกจากพื้นที่เพื่อป้องกันผสมกับนกยูงพันธุ์ไทยที่มีตามธรรมชาติ และเหลือน้อย โดยจัดทีมตามหาตัวตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณโป่งช้างเผือก พบร่องรอยเศษขนของนกยูงอินเดียสีขาว พร้อมรอยเลือด แต่ไม่พบซากนกยูงตัวดังกล่าว จึงคาดว่าอาจถูกทำร้ายหรือกินโดยสัตว์ผู้ล่าไม่ทราบชนิด เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่เห็นนกยูงอินเดียสีขาวมีลักษณะไม่ค่อยระวังตัวเท่านกยูงไทย จึงอาจตกเป็นเหยื่อของสัตว์ผู้ล่าได้ง่าย
อ่านข่าว เร่งตามจับ 2 นกยูงอินเดียขาว-ไฮบริด เดินชิลกลางป่าห้วยขาแข้ง
ส่วนนกยูงพันธุ์ผสมอีก 1 ตัวที่คาดว่าจะเป็นลูกผสมจะดำเนินการเพิ่มจุดตั้งกล้องดักถ่ายภาพให้มากขึ้น รวมถึงการเดินเท้า เพื่อตรวจสอบและค้นหาต่อไปนอกจากนี้เริ่มพบมีโขลงช้างป่าเข้ามาหากินใกล้เคียงพื้นที่ตั้งกรงด้วย จึงต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
ร่องรอยขนนกยูงอินเดียเผือก คาดตายแล้วโดนสัตว์ผู้ล่ากิน
ร่องรอยขนนกยูงอินเดียเผือก คาดตายแล้วโดนสัตว์ผู้ล่ากิน
สำหรับกรณีดังกล่าว เพจเฟซบุ๊ก “Rungsrit Kanjanavanit” ของ “หมอหม่อง” นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ โพสต์ข้อความแสดงความเป็นห่วงระบุว่า พบนกยูงอินเดีย นกยูงเผือก ที่โป่งช้างเผือก ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประชากรนกยูงไทยแท้ ที่ใหญ่และสำคัญที่สุด
หากมีการผสมข้ามพันธุ์กับนกยูงไทยจะเกิดการปนเปื้อนทางพันธุกรรม ทำให้นกยูงไทยสูญเสียความเป็นนกยูงไทยแท้ จึงขอให้กรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหา