จากกรณีนักเรียนชายอายุ 15 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนดังในกรุงเทพฯ ถูกครูสอนดนตรีไทยกระทำอนาจาร และล่วงละเมิด ซึ่ง สน.ทองหล่อ เตรียมส่งตัวครูสอนดนตรีไทยขอฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.2567)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (26 มิ.ย.) ทีมสายไหมต้องรอด และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองของผู้เสียหาย ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการสอบสวนข้อเท็จจริงของโรงเรียน
การสอบสวนในครั้งนี้ เป็นการปิดห้องคุยระหว่างผู้บริหาร สพฐ. และผู้บริหารโรงเรียน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง โดยว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) บอกว่า ได้ลงนามคำสั่งให้ครูดนตรีไทย คนดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งกรรมการสอบสวนโทษวินัยร้ายแรง ตามขั้นตอนทางวินัย 30 วัน
หากหลักฐานประกอบแน่นหนาชัดเจน และครูรับสารภาพตั้งแต่ขั้นต้น ก็จะทราบผลทันทีภายใน 1-2 วันหลังการสอบสวน รวมถึงประสานสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ป้องกันการไปสมัครงานประกอบอาชีพนี้อีกในอนาคต
ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการระบุว่า ทั้งนักเรียนและผู้ปกครองได้แจ้งครูที่ปรึกษามาก่อนหน้านี้ กรณีครูสอนดนตรีไทยกระทำอนาจารจ ยืนยันว่า ไม่เคยรับเรื่องร้องเรียนมาก่อน เพิ่งรับทราบเรื่องหลังผู้ปกครองแจ้งเรื่องมาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. และครูที่ปรึกษาเพิ่งรับทราบเรื่องไม่กี่วันที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองและสังคมตั้งคำถามถึงคำชี้แจงก่อนหน้านี้จากโรงเรียน ว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนจะดำเนินการตรวจสอบภายใน 6 เดือน ถูกมองว่าดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่ ผู้อำนวยการโรงเรียน ระบุว่า ที่สื่อสารไปแบบนั้นเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนตามกรอบการสอบสวนข้อเท็จจริง
ผู้อำนวยการโรงเรียน ยังกล่าวถึงกรณีผู้ปกครองของนักเรียนคนดังกล่าวระบุทางโรงเรียนได้เจรจาเสนอเงินทำขวัญ ว่า ไม่มีเรื่องนี้แน่นอน ซึ่งอาจเป็นการพูดคุยระหว่างผู้ก่อเหตุ ส่วนข้อความแชทที่ปรากฏออกมาเป็นการกระทำโดยพลการของครู ไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารของโรงเรียน ซึ่งครูคนนี้เป็นครูดนตรีที่มีผลงานและรางวัลมากมาย แต่ยืนยันไม่ปกป้อง และจะสอบสวนให้เร็วที่สุด ส่วนที่ผ่านมาการสื่อสารกับผู้ปกครองคลาดเคลื่อน อาจเป็นเพราะว่าฝ่ายวิชาการของโรงเรียนเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ส่งผลให้การดำเนินงานดูล่าช้า
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นพบเด็กคนอื่นปรากฏในคลิปของกลางที่อายัดได้จากครูสอนดนตรีไทย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลและแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ส่วนนักเรียนผู้เสียหาย ในวันนี้ได้พูดคุยกันในห้องประชุมภายใน ระหว่างผู้บริหารโรงเรียนกับผู้บริหาร สพฐ. ซึ่งเด็กนักเรียนยืนยันจะเรียนต่อที่นี่ และผู้ที่ควรอับอายต้องเป็นครูผู้ก่อเหตุ