วันนี้ (19 มิ.ย.2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสงขลา ตำรวจสอบสวนกลาง ศุลกากร และเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือของกลางบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำ ที่จอดเทียบท่าที่สถานีตำรวจน้ำสงขลา
ก่อนวางแผนสูบน้ำมันที่หลงเหลืออยู่บนเรือ เพื่อตรวจสอบว่า มีปริมาณเท่าไหร่ เนื่องจากไม่สามารถคำนวณปริมาตรภาชนะใต้ท้องเรือได้ โดยเริ่มสูบน้ำมันจากเรือเจพี ซึ่งเป็นเรือที่มีน้ำมันเหลืออยู่มากที่สุดก่อน
จากนั้นตามด้วยเรือกำไรเงินและเรือดาวรุ่งตามลำดับ พร้อมนำถังขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 6 ถัง มารองรับ ก่อนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยก่อนหน้านี้ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอบนเรือ เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังตรวจสอบขูดสีเรือ หาสีที่แท้จริงของเรือก่อนถูกแปลงสภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมเรือทั้ง 3 ลำ บรรทุกน้ำมันรวมกว่า 3 แสนลิตร ก่อนจะหายออกจากท่าเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า หลังออกจากท่าเรือสัตหีบ ทั้ง 3 ลำ มุ่งหน้าไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อถ่ายน้ำมันให้เรือลำใหญ่ จึงแทบไม่มีน้ำมันหลงเหลืออยู่
ส่วนสุนัขที่อยู่บนเรือ 7 ตัว ที่ลูกเรือให้การว่า เลี้ยงไว้เพื่อส่งสัญญาณเตือน หากมีความเคลื่อนไหวใกล้ลำเรือนั้น ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ทำหนังสือมอบให้มูลนิธิ The Hope Songkhla และมูลนิธิและองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ The Hope Thailand ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือสุนัขบนเรือของกลางดังกล่าว เมื่อตอนเที่ยงที่ผ่านมา
โดยจับสุนัขทั้งหมดมาดูแลที่ศูนย์ฝึกสุนัขครูโหน่ง เพื่อดูแลสุขภาพ ตรวจเลือดและสังเกตพฤติกรรม คาดว่าใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน
อ่านข่าว : "บิ๊กเต่า" สั่งตรวจสอบ "ผกก."คุยไลน์ "โจ้ ปัตตานี"