"ฮวยหวย" กลยุทธ์ชวนคนไทยขุดเงินจากไหมาเล่นหวย

ไลฟ์สไตล์
7 มิ.ย. 67
16:08
330
Logo Thai PBS
"ฮวยหวย" กลยุทธ์ชวนคนไทยขุดเงินจากไหมาเล่นหวย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ในยุคข้าวยากหมากแพง ประชาชนเลือกเก็บออมเงินใส่ไหฝังดินมากกว่าใช้จ่าย ชาวจีนแนะคนไทยเล่น "ฮวยหวย" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองในยุคนั้น เรื่อยยาวจนถึงปัจจุบัน การแทงหวย หรือ การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกลับเป็นพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยเกือบครึ่งประเทศ

"หวย" เกิดขึ้นราวปี พ.ศ.2375 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ในขณะนั้นบ้านเมืองอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง ราษฎรไม่ยอมนำเงินมาใช้ แต่กลับเอาไปฝังไว้ในดิน กอปรกับช่วงนั้นมีฝิ่นระบาดมาก พระองค์ทรงแก้ปัญหาด้วยการปราบปรามการค้าฝิ่น แต่ปัญหาข้าวยากหมากแพงก็ยังไม่ลดลง เงินหมุนเวียนในตลาดยังน้อย

จน "จีนหง" กราบทูลต่อรัชกาลที่ 3 ว่าเหตุที่เศรษฐกิจไม่กระเตื้องเช่นนี้เป็นเพราะคนนิยมเอาเงินไปฝังในดิน ถ้าอยากให้คนขุดเงินออกมาใช้ ให้เล่นหวยเหมือนคนจีน พระองค์จึงโปรดให้จีนหงตั้งโรงหวยขึ้นมา และโปรดเกล้าฯ จีนหงเป็นพระศรีไชยบาล (ภายหลังเลื่อนยศเป็นพระยาศรีไชยบาล) 

ฮวยหวย

ฮวยหวย

ฮวยหวย

หวยในระยะแรกจะเล่นอยู่ในกลุ่มชาวจีน เรียกว่า "ฮวยหวย" (花會) แปลว่า ชุมนุมดอกไม้ เพราะเริ่มแรกเขียนตัวหวยเป็นรูปดอกไม้ ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อคนจีน โดยทำเป็นแผ่นป้ายเล็ก ๆ จำนวน 34 ป้าย แล้วเขียนชื่อของผู้มีชื่อเสียงในสมัยโบราณเอาไว้บนป้าย ให้แทงว่าจะออกเป็นชื่อใคร ถ้าทายถูกเจ้ามือจ่าย 30 ต่อ 1

ต่อมาเมื่อแพร่สู่สังคมไทย มีการออกหวยที่เป็นอักษรไทย (ซึ่งใช้ตัวอักษร 36 ตัว) เพราะคนไทยไม่สามารถอ่านตัวอักษรจีนได้ จึงมีชื่อเรียกว่า "หวย ก ข" โดยโรงหวยเป็นของรัฐที่มีเอกชนเป็นผู้ได้รับสัมปทานดำเนินการ ทั้งนี้นายอากรหวย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนบาล" หรือ "ขุนบาน" รายได้จากอากรหวยมีเป็นจำนวนมาก และได้กลายเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐ

หวย ก ข

หวย ก ข

หวย ก ข

เมื่อความต้องการเล่นหวยมีมากกว่าที่รัฐจะจัดให้เล่นได้ จึงได้เกิด "ขุนบานเถื่อน" ขึ้นทั่วประเทศ ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริ ที่จะยกเลิกการเล่นพนันหวย แต่เนื่องจากอากรหวยเป็นรายได้ที่สำคัญ จึงทรงยกเลิกอากรบ่อนเบี้ยก่อน และค่อยมีการยกเลิกอากรหวยได้ในที่สุดในสมัยรัชกาลที่ 6

ในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 5 มีชาวต่างประเทศกับขุนนางไทยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออก "ลอตเตอรี่" ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2417 จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา โดยชาวอังกฤษชื่อ
"ครูอาลบาสเตอร์" ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการออกลอตเตอรี่ตามแบบยุโรป 

ครูอาลบาสเตอร์

ครูอาลบาสเตอร์

ครูอาลบาสเตอร์

จากนั้นมีการออกสลากอีกหลายประเภทตามมา เช่น ลอตเตอรี่ของสภารักชาติแห่งประเทศอังกฤษ, ลอตเตอรี่บำรุงเสือป่าอาสาสมัคร, ลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม

จนกระทั่งรัฐบาลภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ.2475 ได้ให้มีการออกลอตเตอรี่เป็นประจำ และในปี พ.ศ. 2482 เป็นยุคที่สลากกินแบ่งรัฐบาลเริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง โดย ครม.สมัยรัฐบาล พันเอกหลวงพิบูลสงคราม มีมติให้โอนย้ายกิจการสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากบำรุงเทศบาล มาสังกัดกระทรวงการคลัง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้น โดยมี "พระยาพรหมทัตศรีพิลาส" เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2482 ถือเป็น วันสถาปนาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จนปัจจุบัน และเปิดอาคารที่ทำการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนินกลางในอีก 5 ปีต่อมา 

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนินกลาง

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนินกลาง

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนินกลาง

ในปี พ.ศ.2530 มีการปรับปรุงการออกรางวัลจาก 7 หลักเป็น 6 หลัก และปรับราคาจำหน่ายจากฉบับละ 20 บาท เป็น 40 บาท รวมถึงการออกรางวัลแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว เพื่อแก้ปัญหาหวยใต้ดินและปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาอีกด้วย 

จนมาถึง พ.ศ.2560 มีการปรับปรุงรูปแบบและขนาดของสลากอีกครั้ง จากเดิมคู่ละ 80 บาท (ฉบับละ 40 บาท) เป็นรูปแบบใบเดียวฉบับละ 80 บาท เพื่อให้สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชน และป้องกันความสับสนสามารถตรวจสอบได้ง่าย โดยยังคงเงินรางวัลไว้เช่นเดิม

คำเตือน : ซื้อหวยเบอร์ทอง หวยเบอร์เงิน หวยใต้ดิน ล้วนผิดกฎหมาย หากใครฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตาม พ.ร.บ.การพนัน ม.12 มีความผิดทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย

คนไทยเล่นหวยหนักเงินสะพัด 3.4 แสนล้าน/ปี

รายงานจาก The Active ระบุว่า จากรายงานศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันปี 2565 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เก็บข้อมูลคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปในรอบปี 2563-2564 พบว่า มีการเล่นพนันมากถึง 32 ล้านคน โดยการเล่นหวยได้รับความนิยมมากที่สุด แบ่งเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 24.6 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.4 ของคนเล่นหวยทั้งหมด ใช้เงินซื้อเฉลี่ยสุงสุด 575 บาท/งวด มีเงินหมุนเวียน 139,997 ล้านบาท/ปี และหวยใต้ดินจำนวน 19.2 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.5 ของคนเล่นหวยทั้งหมด ใช้เงินซื้อเฉลี่ยสูงสุด 899 บาท/งวด มีเงินหมุนเวียน 149,919 ล้านบาท/ปี

นอกจากนี้คนไทยยังหันไปนิยมเล่นหวยแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะหวยต่างประเทศที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทุกปี เช่น หวยหุ้น หวยปิงปอง หวยมาเลเซีย หวยลาว หวยฮานอย เป็นต้น จากข้อมูลพบว่ามีคนไทยเล่นหวยดังกล่าวทั้งหมดราว 1.35 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.5 ของคนเล่นหวยทั้งหมด ใช้เงินซื้อเฉลี่ยสูงสุด 420 บาท/งวด มีเงินหมุนเวียน 58,754 ล้านบาท/ปี

อ่านข่าว : "สลากเกษียณ" คืออะไร เงื่อนไข "ออม" ทำอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง