วันนี้ (16 พ.ค.2567)นายจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯได้นำเครื่องชั่งสปริงที่ไม่เที่ยงตรง ชำรุด เสื่อมสภาพ หรือไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ตรวจยึดมาตามขั้นตอนของกฎหมาย มาทำลายทั้งหมด 696 เครื่อง
นายจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน
ภาพรวมทั่วประเทศปีนี้ กรมฯได้ทำลายเครื่องชั่งตวงวัดแล้ว ประมาณ 13,000 เครื่อง แบ่งเป็น เครื่องชั่งสปริง 3,750 เครื่อง เครื่องชั่งดิจิทัล 4,070 เครื่อง ตลับเมตร 5,150 ตลับ และเครื่องตวง 30 เครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 6.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเครื่องชั่งตวงวัดที่ยึดมาและอยู่ระหว่างรอทำลายอีก 2,489 เครื่อง
การทําลายเครื่องชั่งผิดกฎหมาย ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดําเนินการอย่างโปร่งใส โดยกรณีที่เป็นเครื่องชั่งสปริงใช้วิธีการทุบทำลายให้สิ้นสภาพไม่สามารถนำกลับมาใช้อีกและนำไปขายเป็นซากนำรายได้เข้าแผ่นดิน
สำหรับการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถึง 15 พ.ค.67 มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด 106 คดี แบ่งเป็น การใช้เครื่องชั่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรอง 62 ราย การใช้เครื่องชั่งที่ไม่เที่ยงตรง 10 ราย การใช้เครื่องชั่งเสื่อมสภาพ 7 ราย การโกงเครื่องชั่ง 3 ราย บรรจุสินค้าไม่ครบตามปริมาณที่แสดง 12 ราย และความผิดอื่นๆ 12 ราย
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ฝากถึงผู้ประกอบการที่ใช้เครื่องชั่งตวงวัดในการค้าขายว่าจะต้องใช้เครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องดูแลและตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัดของตนอย่างสม่ำเสมอ
หากใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบว่ามีการดัดแปลงแก้ไขหรือโกงเครื่องชั่งเพื่อเอาเปรียบประชาชนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีและปรับไม่เกิน 280,000 บาท
อ่านข่าว:
“ข้าวเหนียวมะม่วงไทย” สุดฮอต พาณิชย์ ชี้เป้าตลาดอาเซียนมาแรง
คลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลด สนพ.เผยดันราคาตลาดโลก เม.ย.67 พุ่ง 22 %
ส่งออก "แป้งมัน" พุ่ง กว่า 1.8 หมื่นล้าน ปีนี้ตลาดจีนรับไม่อั้น