วันนี้ (20 เม.ย.2567) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 4 ว่า เพื่อส่งเสริมผลักดันซอฟท์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลก เริ่มต้นคือการพัฒนาคน โดยจะเฟ้นหาศักยภาพของคนไทยทุกครอบครัว อย่างน้อยครอบครัวละ 1 คน เพื่อนำมาส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
ก้าวสำคัญ ของการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ และพัฒนาศักยภาพ คนไทย ผ่านโครงการ OFOS หรือ One Family One Soft Power หรือ 1 ครอบครัว 1 Soft Powe ผ่าน ศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ ที่จะมีในทุกระดับตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ไปจนถึงระดับประเทศ ให้ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะสร้างสรรค์ของตัวเองในทุกด้าน
ไม่ว่าด้านการทำอาหาร ร้องเพลง ออกแบบ ศิลปะ กีฬา และอื่นๆ ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว สามารถเรียนรู้ได้ทั้งทางออนไซต์ และออนไลน์ ไม่จำกัดว่าเป็นใคร โดยมีเป้าหมายภายใน 4 ปีข้างหน้า สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน ซึ่งนั่นคือการสร้างงานถึง 20 ล้านตำแหน่ง ที่มีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปีในอนาคต
นางสาว แพทองธาร กล่าวอีกว่า จากการทำงานมามากกว่า 6 เดือนของคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะกรรมการฯ มียุทธศาสตร์ 3 ข้อ ในการสร้าง Soft Power และกำลังตั้งหน่วยงานที่ชื่อ THACCA หรือ Thailand Creative Culture Agency ผ่าน พ.ร.บ. ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนรับฟังสาธารณะ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าสภาในช่วงมิ.ย.นี้
สำหรับ 3 ยุทธศาสตร์ ในการสร้าง Soft Power ประด้วย นโยบายต่างประเทศเพื่อสร้าง Soft Power โดยได้มีโอกาสไปพบกับหน่วยงานรัฐบาลและเอกชนของต่างประเทศ เพื่อหาความร่วมมือ รวมถึงทำงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ในการส่งออกเพื่อสร้าง Soft Power และการพัฒนาศักยภาพคนไทยผ่านนโยบาย หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์
อุตสาหกรรมสร้าง Soft Power จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะยกระดับรายได้ ผลักดันให้ประเทศไทย เปลี่ยนจากประเทศรายได้ปานกลางสู่ประเทศรายได้สูงได้ในอนาคต
ทั้งนี้ อาชีพที่สร้าง Soft Power ไม่ว่าจะเป็น อาชีพเชฟอาหารไทย อาชีพนักมวยไทย อาชีพครูมวยไทย อาชีพนักตัดเย็บ และอีกหลายอาชีพ จะสามารถยกระดับรายได้ของพี่น้องประชาชน ให้มีรายได้ไม่น้อยกว่า 200,000 บาทต่อปี
สำหรับการอบรม OFOS จะเริ่มลงทะเบียนพร้อมกันทุกหลักสูตรต้นเดือนมิ.ย.นี้ ตั้งเป้าหมายที่จะอบรบออนไลน์รวมกว่า 266,400 คน และจะมีการอบรมออนไซด์ 30,000 คน เช่น อุตสาหกรรมอาหารจะมีการอบรวมเชฟอาหารไทย 10,000 คน มวยไทย 6,000 คนโดยประมาณ เป็นต้น
เป้าหมาย คือ ต้องการยกระดับชีวิตของคนไทย ใกล้ความเป็นจริงแล้ว หลายคนจะมีชีวิตใหม่ มีโอกาสใหม่ ผ่านการเรียนรู้ศักยภาพใหม่ๆ ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านโครงการนี้
อ่านข่าวอื่นๆ:
อากาศร้อน “ผักแพง” พาณิชย์ เร่งเชื่อมโยงตลาดผัก
ออมสิน แก้หนี้ครัวเรือน ปล่อยกู้ “สินเชื่อรีไฟแนนซ์” ลดดอกเบี้ย