วันนี้ (14 เม.ย.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้นายกฯจะยืนยันว่าวันนี้จะยังไม่ปรับ แต่คนก็ยังโฟกัสเรื่องนี้ซึ่งหากจะมีการปรับจริงจะมีการปรึกษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ว่า ในความเห็นของพี่น้องประชาชนหลายล้านคน ในประวัติศาสตร์เห็นว่านายทักษิณเป็นนายกฯที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง
เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีตนได้แถลงไปแล้ว หากจะมีการปรับก็ต้องมีการพูดคุยกับหลายภาคส่วนโดยต้องมีการพูดคุยกับ เลขาธิการ นายกฯ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังสงกรานต์พูดคุยกับพรรคร่วมเลยหรือไม่ นายกฯกล่าวยอมรับว่า "แน่นอนครับ"
เมื่อถามว่า จะเป็นการพูดคุยในลักษณะส่งสัญญาณหากพรรคใดต้องการจะปรับสามารถแจ้งได้เลยใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า หากจะมีการปรับก็ต้องมีการพูดคุย เป็นการทำงานที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว
อ่านข่าว : "ทักษิณ" แย้มปีหน้าควง "ยิ่งลักษณ์" ทำบุญสงกรานต์เมืองไทย
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่นายกฯจะควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกทางเลือกมีความเป็นไปได้หมดขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาการทำงานของคนให้ถูกฝาถูกตัวเป็นที่ตั้ง ตรงนี้มีความเป็นไปได้หมด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง
เมื่อถามว่า ที่ความเป็นไปได้ที่นอกจากพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ยังมีปัจจัยอะไรอีกที่จะทำให้ นายกฯ ควบตำแหน่งรมว.กลาโหม นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากจะเจาะจงกระทรวงใด เป็นการพูดในหลักการคร่าว ๆ มากกว่า
หากจะไปทำงานหรือมีการโยกย้ายไม่ใช่เฉพาะตนเองคนเดียว รัฐมนตรีท่านอื่นก็ต้องดูให้ถูกคน เราก็รับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน เองแม้แต่สื่อมวลชนเองบอกว่าบางคนทำงานยังไม่ถูกยังไม่ดีพอ อ่อนในหลายด้านรวมถึงการสื่อสาร ด้านการประสานงาน ทุกข้อคิดเห็นตนนำมาพิจารณาหมด หากจะมีการปรับคณะดนตรี
เมื่อถามว่านายกฯ คือ ผู้มีอำนาจจรดประกาศลงนาม การปรับครั้งนี้จะเป็นการปรับใหญ่เลยหรือไม่ เพื่อจะขับเคลื่อนงบประมาณในระยะยาว นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าตนไม่อยากจะเจาะจงว่า ปรับใหญ่หรือปรับเล็กหรือปรับใครไม่ปรับใครบ้าง เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพูดคุยและผลงานของแต่ละคนด้วย
อ่านข่าว : "เศรษฐา" เช็กเรตติ้งตลาดหัวหิน-ยาหอมปีหน้าเศรษฐกิจดี
เมื่อถามว่าการปรับรอบนี้จะถูกฝาถูกตัวเลยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนอะไรต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป พรุ่งนี้มะรืนไม่ได้บอกว่าจะมีการปรับพรุ่งนี้มะรืนนี้ หากจะมีการปรับต้องมีความชัดเจนว่ามีความเหมาะสม ถูกต้องถูกเวลา แต่อาจจะต้องมีหลายท่านอาจจะยังต้องพิสูจน์ตัวเองยังต้องการเวลาในการทำงานอยู่ เพื่อให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์และคิดว่าหากจะมีการปรับก็คงปรับเรื่อย ๆ ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
เมื่อถามว่า ปรับ ครม.ครั้งนี้จะไม่มีแรงกระเพื่อมที่ต้องตามแก้ภายหลังใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “อ๋อ ไม่มั่นใจครับ ถ้าบอกว่า ทุกอย่างไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความกระเพื่อม มีความไม่สบายใจก็ต้องทำไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้บอกว่าจะมีการปรับนะ ”
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง
เมื่อถามว่าแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยค่อนข้างเยอะการปรับครั้งนี้จะทำให้แรงกระเพื่อมในพรรคลดลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่แน่ใจครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน ผมเอาปัญหาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง และเอาการทำงานเป็นที่ตั้ง ผมเชื่อว่าทุกท่านเข้าใจ ปรับออกไปแล้วก็ปรับเข้ามาใหม่ได้ มันแล้วแต่วาระของเหตุการณ์ในปัจจุบัน
อย่างเหตุการณ์ปัจจุบันอาจต้องการบางบุคคลเข้าไปช่วยงานในสภา พอสภาแข็งแกร่งท่านอาจจะกลับเข้ามาใหม่ก็ได้ มันไม่ใช่เป็นอะไร ที่จบแล้วจบเลยมันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ในอดีตทุกท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่า การปรับ ครม.ก็มีการปรับเข้า ปรับออก เปลี่ยนกระทรวงไปแล้วกลับไปกระทรวงเดิมก็ยังเป็นไปได้ ตรงนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยครับ ถ้ามันเกิดขึ้นเดี๋ยวค่อยมาว่ากันดีกว่า
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีแต่ละคนถือว่ามีโปรไฟล์สูง ทำงานมา 7 เดือนแล้วถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องพิจารณาปรับถ้าทำงานไม่เข้าเป้า นายกฯกล่าวว่า เรื่องปรับ ครม.ตนพูดไปเยอะแล้ว ได้ปรับความจริงไม่ได้ปรับภายในวันหรือสองวันนี้
ถ้าพูดไปเรื่อยก็แรงก็กระเพื่อมไปเรื่อย จุดประสงค์ใหญ่ถ้ามีการปรับ ครม.ก็ปรับให้ถูกฝาถูกหน้าที่ ไม่ใช่แค่ดูที่รัฐบาลอย่างเดียวต้องดูที่ระบบรัฐสภาด้วยว่า มีความแข็งแกร่งขนาดไหน ต้องการคนช่วยเหลือตรงไหนบ้าง
นายเศรษฐายังระบุว่า แน่นอนว่า เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง 7 เดือนที่แล้วกับวันนี้สถานการณ์ต่างกัน บางอย่างเรายังทำไม่ดีพอ บางอย่างเราคิดว่าทำได้ดีแล้ว ก็ต้องมาพิจารณาทั้งหมดโดยรวม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง
แม้นายกฯจะบอกว่า 314 เสียง แข็งแกร่งแล้ว แต่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังมีการไปพูดคุยกับนายทักษิณ จึงมีคำถามกลับมาว่า มีโอกาสหรือไม่ที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า นายทักษิณเป็นผู้ที่มีความอาวุโสทางด้านการเมืองสูง มีเพื่อนฝูงในวงการเยอะ การที่จะไปทานข้าว พูดคุยกับใคร เชื่อว่าจุดมุ่งหมายคือประชาชนเป็นหลักฉะนั้นการจะไปกินข้าวกับใคร สามารถตีความได้หลายอย่าง
อ่านข่าว : จับตาเซอร์ไพรส์ ปรับ ครม. "เศรษฐา 1" หลังสงกรานต์
หากถามโดยส่วนตัวของตนไม่เคยพูดคุยกับใคร แม้แต่ไปเจอกับนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคและ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน ที่นายชัยชนะมาวันนั้นก็มาในฐานะเจ้าของพื้นที่ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันไป ไม่ได้มีการพูดถึงว่าจะมาเข้าร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด