วันนี้ (28 มี.ค.2567) ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ส.12/2560 ระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนที่ 1 กับพวกรวม 49 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ที่ 1 กับพวกรวม 9 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ขอให้เพิกถอนการออกใบอนุญาตและให้ชดใช้ค่าเสียหาย
คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่าอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี กับพวกรวม 5 คนได้อนุมัติอนุญาตให้ผู้ประกอบการโรงงานบริษัท แวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ก่อสร้างประกอบกิจการโรงงานรับกำจัดขยะ หรือกำจัดกากอุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึงจ.ราชบุรี
ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งอยู่ติดแหล่งน้ำซับเป็นต้นน้ำของห้วยน้ำพุ อ.เมืองราชบุรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และปล่อยปละละเลยก่อให้เกิดปัญหามลพิษกระทบกระเทือนต่อการดำรงชีวิตเกษตรกรรมและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประชาชนผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล
ศาลตั้งประเด็นวินิจฉัย 4 ประเด็น โดยเห็นว่าผู้ถูกฟ้องละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จึงมีคำสั่งให้ระงับ เพิกถอนใบอนุญาตโรงงาน และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมภายใน 120 วัน นับตั้งแต่คดีถึงที่สุด แต่ยกฟ้องการเรียกร้องค่าเสียหาย
ทั้งนี้ ค่าเสียหายศาลแพ่ง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม ตัดสินมีคำสั่งไปแล้วเมื่อเดือนธ.ค.2563 ให้แวกซ์กาเบ็จ ชดใช้ค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อม สุขภาพ การประกอบอาชีพเกษตรกรรม และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี ส่งผลให้ชาวบ้าน 1,000 คน จะได้รับค่าชดเชยเป็นรายปี ติดต่อกัน 5 ปี แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการบังคับคดี
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน บอกว่า คำสั่งของศาลพิพากษาที่ตัวบุคคล แต่ยกฟ้องหน่วยงานฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่จึงเตรียมยื่นพร้อมต่อ ป.ป.ช.
อ่านข่าว
ยังไม่คืบ! ชง 60 ล้านของบกำจัดขยะพิษแวกกาเบจซ์