วันนี้ (14 มี.ค.2567) นางสาว พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โลกยังคงมีความผันผวน ทั้งเศรษฐกิจโลก สงครามระหว่างประเทส ส่งผลให้ราคาโกโก้ในตลาดโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยราคาซื้อขายโกโก้ล่วงหน้าที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 1 มี.ค.2567 พุ่งขึ้นสูงถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือประมาณกว่า 240,000 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในช่วงเวลาเดียว
นางสาว พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม
ประกอบกับความต้องการโกโก้มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ สะท้อนได้จากการเติบโตของร้านคาเฟ่ ผลิตภัณฑ์ขนมหวาน ช็อกโกแลตพรีเมี่ยม รวมถึงเทรนด์การรักสุขภาพ เนื่องจากโกโก้สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ (Super Food) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
นับเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมโกโก้ไทยที่จะมีโอกาสเติบโตไปยังตลาดโลก และยกระดับสู่การเป็นไทยโกโก้ฮับ (THAI COCOA HUB) ของอาเซียนในอนาคต
แต่อย่างไรก็ตาม โกโก้ไทยยังติดข้อจำกัดในหลายจุดตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนั้น รัฐบาลจึงหาแนวทางผลักดันและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโกโก้ไทยตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อร่วมกันศึกษาแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมโกโก้จาก ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โกโก้และคราฟต์ช็อกโกแลตสัญชาติไทยแท้ ซึ่งมีข้อเสนอแนะและความต้องการที่จะให้ภาครัฐมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์โกโก้ให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด การส่งเสริมมาตรฐานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น GMP GHPs Halal การเพิ่มมูลค่าโกโก้สู่ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศเชื่อมโยงแบรนด์โกโก้ของไทยที่มีคุณภาพสู่ตลาดสากลมากขึ้น ไปถึงการสนับหนึนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนกับสถาบันการเงินต่าง ๆ
ด้านนายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ทีมดีพร้อมเข้าไปให้คำปรึกษาแนะ นำเชิงลึกในการเตรียมความพร้อม และตรวจประเมิน สำหรับยื่นขอการรับรองผลิตภัณฑ์มาตรฐานฮาลาลจากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อสามารถขยายโอกาสทางการตลาดสู่ตลาดฮาลาลในอนาคต
นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปปรับปรุงเครื่องจักรในกระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปโกโก้ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงการติดปีกเอสเอ็มอี หลักทรัพย์ไม่มี ดีพร้อมค้ำประกันให้ ให้แหล่งเงินทุนได้ง่ายโดยใช้หนังสือค้ำประกันแทนหลักทรัพย์
ขณะเดียวกัน ยังวางแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมโกโก้ของไทยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำในทุก ๆ มิติ เน้นการพัฒนาและยกระดับศักยภาพเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นรวมกลุ่มเกษตรกรคลัสเตอร์โกโก้ การนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และการจัดการเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ รวมถึงการพัฒนาและยกระดับการแปรรูปโกโก้สู่การเป็นอาหารแห่งอนาคต (future food)
เพื่อรองรับกระแสการปฏิวัติอุตสาหกรรมอาหารในกลุ่มซุปเปอร์ฟู้ด (Super foods) และเทรนด์คนรักสุขภาพในปัจจุบัน คาดว่าจะยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโกโก้ให้มีขีดความสามรถการแข่งขันในระดับเวทีโลกได้มากขึ้น และกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้นกว่า 8,000 ล้านบาท
อ่านข่าวอื่นๆ:
ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้ "แบงก์ชาติ" เริ่มมาตรการแก้หนี้เรื้อรัง ช่วยปิดจบเร็ว
หนี้ครัวเรือนพุ่ง ส่งออกชะลอตัว สอท.จี้รัฐตรึงราคาดีเซล-ก๊าซหุงต้ม